Category ข่าววันนี้

คดีป๋ายุทธ 1

ปมลึก คดีป๋ายุทธ กินตับเมียชาวบ้าน หรือ เหยื่อเกมพิศวาส

รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทาง แอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์ NEWS1 รวมทั้ง เฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 ในวัน อังคาร ที่ 10 มกราคม 2566 เสนอรายงานพิเศษ ปมลึก คดีป๋ายุทธ กินตับเมียประชาชน หรือ เหยื่อเกมพิศวาส

การยุทธ ยังไม่สิ้นเสร็จ ทางออกของ ย. ย. ยงยุทธ วิชัยดิษฐ จะเป็นอย่างไรถัดไป คดีที่ตกเป็นข่าวโจษจัน คาวสวาท ในวัย 80 ปี กับสาวสวยรุ่นลูก ซึ่ง ดันเป็น “เมียชาวบ้าน”

นายยงยุทธ ในเวลานี้ จำต้องพบศึกกระหนาบ กับหลาย ๆ ด้านพร้อมกัน ทั้งจากคดี และก็ กระแสสังคม

ในทางคดีนั้น “นาย ก.” ฝ่ายโจทก์ ซึ่ง มีทนายความตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด รับว่าความให้ ได้ยื่นฟ้องแพ่งเรียกร้องค่าเสียหาย ต่อ จำเลยไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 เดือนธันวาคม ที่ผ่านมา

ปรากฎว่า มีการเดินเกม โต้ตอบ ส่งคนไปขู่คุกคามทางด้านโจทก์ นับว่าเป็นเป้าหมายที่พลาดอย่างแรง ของคนสั่งการ

เมื่อโจทก์เกิดความหวาดกลัว แล้ว ยอมถอยไปเงียบๆก็ถือว่าเข้าทางไป แต่สำหรับในกรณีนี้ โจทก์ กลับทำตรงกันข้าม และ พร้อมที่จะชนอิทธิพลให้ รู้ดี รู้ชั่ว กันไปเลยทีเดียว

ภรรยาถูกชายชู้ตีท้ายครัว ก็เจ็บปวดพอแล้ว ยังมาถูกข่มขวัญคุกคามซ้ำอีก สามีของฝ่ายหญิง เลยล้างแค้น ด้วยการเปิดโปง

คดีป๋ายุทธ

สำหรับหมากเกมนี้ คดีป๋ายุทธ ของชายมือที่สาม จึงนับว่าเกิดความผิดพลาดขึ้น อย่างแรง

จากคดีที่ฟ้องร้องคดีกันเฉยๆ ไม่มีใครรู้ ก็เลยตกกลายเป็นข่าวดัง ได้รับรู้กันทั้งประเทศ

อย่างไรก็ตาม ทางคดีอาจจะมีทางออก ไม่ต้องจ่ายเงินทดแทน โดยชอบด้วยกฎหมายแพ่ง ถ้าหากพิสูจน์ได้ว่า สามีภรรยาคู่ปัญหานี้ รู้เห็นเป็นใจกัน ทำเหตุการณ์ขึ้นเอง กระทั่ง ป๋ายุทธ์ ติดบ่วง

ว่าในประเด็นโดยชอบด้วยกฎหมาย ก็คือ การจะฟ้องศาลทางแพ่ง เรียกร้องค่าเสียหายอะไรก็แล้วแต่ ตามกฎหมายแพ่ง มาตรา 1523 เรียกค่าทดแทน จากแฟนปันใจ จำเป็นต้องเป็นคู่ที่ จดทะเบียนสมรสกันแล้วแค่นั้น ต่อให้โดยพฤตินัย จะแยกบ้านกันอยู่ก็ตาม ยังนับว่าเป็น สามี ภรรยา โดยชอบด้วยกฎหมาย

ถ้าเกิดผัวเมียจำพวกอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน แต่ไม่ได้ลงบัญชีกัน จะไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องตามมาตรา ดังกล่าวได้เลย

จนกระทั่งปัจจุบันนี้ ก็ยังไม่มีการยืนยันชัดแจ้ง ในหัวข้อทะเบียนสมรส ว่ามีหรือไม่ แต่ก็น่าพิจารณาเช่นกันว่า ผู้ใช้กฎหมาย ระดับ ทนายความตั้ม จะมาตายน้ำตื้น พลาดในตัวบทกฎหมายง่าย ๆ แบบนี้ ก็ยากที่จะมีความเป็นไปได้

มาถึงใจความสำคัญที่น่าดึงดูดเยอะที่สุด อันจะเป็นเหตุทำให้คดีพลิก รวมทั้ง เกิดกระแสตีกลับ มีการวิเคราะห์ไปในทางเดียวกันคือ ป๋ายุทธ คือ เหยื่อของเกมหลงใหล อันสลับซับซ้อน เป็นได้ว่า งานนี้ เป็นแผนการส่งฝ่ายหญิง ไปลวงล่อให้ “ป๋ายุทธ ดอนฮวน แห่ง ชาวสิงห์ดำ” ตกหลุม เพื่อร่วมกันแบล็กเมล์ตบทรัพย์ มันจะเป็นได้ไหม ผู้คนจำนวนมากตั้งประเด็นนี้ เพื่อมองรอบด้าน

หนึ่งในข้อสงสัย ที่มีต่อ ตัวคู่ผัวเมีย เพราะอะไร ฝ่ายผัวถึงได้ เข้าถึงภาพลับ แชทลับ ต่าง ๆ ของภรรยาได้ ทั้งที่ภรรยากำลังมีพฤติกรรมทางลับ ที่มิดีมิงาม

ทำไม เธอถึงไม่ถ้วนถี่ ไม่มีการเข้ารหัสป้องกันโทรศัพท์มือถือ ที่ตรงนี้จะดูให้เป็นพิรุธ ก็ดูได้ด้วยเหมือนกัน

ฝ่ายจำเลย บางทีอาจใช้ประโยชน์จากความสงสัย พวกนี้ แปลงตัวเอง ให้เป็นเหยื่อผู้ถูกกลั่นแกล้ง ไปเลย ไม่ใช่นักรักนักล่าไร้หัวใจ อย่างที่ข่าวสารเขาว่าซะหน่อย

คดีป๋ายุทธ 2

แต่การเข้าถึงข้อมูลมือถือนั้น จริง ๆ ก็มีสารพัดสารพันแนวทางการที่จะ “แฮก” เข้าไปได้ ต่อให้มีรหัสปกป้องก็ตาม

ในช่วงเวลานี้ ความเสียทีอย่างแรงของ ป๋ายุทธ ก็คือ สมรภูมิโซเชียล เนื่องจากว่าภาพลับของ นายยงยุทธ เริ่มถูกปลดปล่อยออกมา ว่อนทั่วอินเตอร์เน็ต ไปแล้ว

อย่างภาพเปลือยเปล่าคู่กัน ที่ถึงแม้ไม่เห็นหน้าฝ่ายชาย แต่ก็เห็นผมสีดอกเลาโดดเด่น เป็นสง่า ก็ไม่อาจจะเป็นคนที่สอง หรือ ใครอื่นได้

หรือภาพเปิดหน้าชัด ๆ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ โอบไหล่สาวสวยรุ่นลูก แชะภาพร่วมกันอย่างเผย บางทีก็อาจจะแถว่าเป็นภาพตัดต่อ ก็ว่าได้ แต่ ใครจะเชื่อ? และก็ วันนี้ยังมีภาพหลุด ค่อย ๆ ปล่อยทะยอยออกมา อย่างต่อเนื่อง

การจัดการตนเอง ในโลกของโซเชียลนั้น นับว่าเป็นงานยาก ถึงยากที่สุด ท่ามกลางภาพลับ ที่น่าจะตามมาอีกมาก ที่จะได้เห็น ต่อเนื่อง ทุกวันเป็นอย่างกับหนังซีรี่ย์ เพื่อบีบรัด ป๋ายุทธ ให้ “ดิ้น” ไม่ออก

ยิ่งมีการไปต่อปากหลากคำ กับทนายตั้ม รวมถึง ตั้งท่า ดึงพรรคเพื่อไทยมาอุ้ม ก็จะยิ่งโดน ทนายตั้ม “ขยี้” ด้วยเหลี่ยมเชิงตรรกะยอกย้อน ชาวเนต ซึ่ง จำนวนมากยืนข้าง ทนายตั้ม ก็จะรุมสกรัม ป๋ายุทธ ซ้ำกันเข้าไปอีก

บางโอกาส การยืดอกสารภาพเรื่องจริง ดีที่สุด ผมนี่แหละครับ “ป๋า สปอร์ต ใจดี กทม. โอนไว” แล้วปิดห้องเจรจา เพื่อจ่ายค่าเสียหาย ให้กับความซนที่ก่อไว้ อาจเป็นทางออกที่ดีที่สุด เวลานี้ เชื่อ ในทางพฤตินัย การยุทธ คงสิ้นเสร็จ แล้ว ก็จะได้เสร็จเรื่องกันไป

กองทัพเรือ ไม่ท้อค้นหา 5 กำลังพลต่อเนื่อง

กองทัพเรือ ยันชิ้นส่วนเนื้อ-กระดูกที่เจอ ไม่ใช่ของมนุษย์ ไม่ท้อค้นหา 5 กำลังพลต่อเนื่อง

กองทัพเรือ ยังรวมกำลังค้นหา 5 กำลังพลสูญหาย ร.ล.สุโขทัย ตลอด ยืนยันองค์ประกอบเนื้อ และโครงกระดูกที่พบ ไม่ใช่ของคน

8 เดือนมกราคม 66 เวลา 11.30 น. พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า เดี๋ยวนี้ กองทัพเรือยังคงทำงานค้นหาผู้หายสาบสูญ จากเรือหลวงสุโขทัยอับปาง อย่างสม่ำเสมอ

โดยเฉพาะตามแนวริมตลิ่ง ซึ่งรับความร่วมมือจาก ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 (ศรชล.ภาค 1) ศรชล.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ศรชล.จ.ชุมพร รวมทั้ง ชุดปฏิบัติการพิเศษ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ เข้าปฏิบัติการค้นหา และช่วยเหลือผู้หายสาบสูญ บนเกาะต่างๆ

โดยปัจจุบันนี้ยังคงมีปัญหาจากคลื่นลมที่มีกำลังแรง อันเป็นผลจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และทะเลอันดามัน เป็นปัญหาในการค้นหาของเรือขนาดเล็ก อย่างไรก็ตามตลอดวานนี้ ได้มีการจัดชุดค้นหาทั้งบนผิวน้ำรวมถึงการเดินเท้าตรวจตามริมฝั่ง และเกาะต่างๆในพื้นที่จังหวัดชุมพร และจังหวัดสุราษฎร์ธานี จนกระทั่งเวลานี้ ยังไม่พบผู้หายสาบสูญแต่อย่างใด

จากสภาพ คลื่นลมในทะเลอ่าวไทยที่มีกำลังแรง ทำให้เมื่อวันที่ 7 เดือนมกราคม 66 เวลา 13.00 น. ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสุราษฎร์ธานี (ศรชล.จ.สุราษฎร์ธานี) ได้รับแจ้งว่า เรือลากจูง (Tug Boat) ชื่อ พีแอล อาร์เธน่า (PL ARTHENA) ได้ขอความช่วยเหลือ เพราะว่ามีน้ำเข้าเรือ และเครื่องยนต์ใหญ่ดับ อยู่บริเวณตอนบนเกาะพะงัน

ก็เลยผสานส่งเรือตรวจประมง 320 เรือตำรวจน้ำ เรือ ปภ.จากเกาะสมุย เดินทางไปช่วยเหลือ ในขณะที่ ทัพเรือภาคที่ 2 ได้จัด เรือ ต.114 ออกให้การเกื้อหนุนช่วยเหลือ พร้อมเครื่องสูบน้ำ ท่ามกลาง คลื่นทะเลพัดแรง

ต่อมาในเวลา 13.30 น. เรือประมงชื่อ ณปภา ซึ่งอยู่ใกล้เรือเกิดเหตุมากที่สุดได้เข้าให้การช่วยเหลือลูกเรือ พีแอลอาร์เธน่า ที่สละเรือ และอยู่บนแพช่วยชีวิต ทั้ง 9 คนได้อย่างปลอดภัย หลังจากนั้น เรือ ต.114 ได้เข้าไปรับลูกเรือทั้งหมด ขึ้นบกที่สถานีเรือสมุย ทัพเรือภาคที่ 2 ต.ลิปะน้อย อำเภอเกาะสมุย โดยในจำนวนนี้ มีคนที่ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก็เลยได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเกาะสมุย เพื่อทำรักษาถัดไป

ทัพเรือ ยันชิ้นส่วนเนื้อ กระดูกที่เจอ
ในส่วนของการค้นหากำลังพล กองทัพเรือ จากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปางนั้น

ผลการปฏิบัติจนถึงเดี๋ยวนี้ ยังไม่มีการเจอผู้สูญหายเพิ่ม ซึ่งหากมีความก้าวหน้าทางสำนักงานผู้ประกาศกองทัพเรือ แจ่มแจ้งให้ทราบ และโอกาสถัดไป

ทั้งนี้ในส่วนของกระแสข่าวว่า ได้มีการตรวจพบองค์ประกอบของโครงกระดูกและชิ้นเนื้อ บริเวณหาดนางลอย อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี นั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้นำส่วนประกอบส่งให้กับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าชนะ และเจ้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานภาค 8 ที่เข้ากระบวนการตรวจชิ้นเนื้อ ที่โรงพยาบาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีซึ่งล่าสุดได้รับแจ้งว่าองค์ประกอบดังกล่าว ไม่ใช่องค์ประกอบของมนุษย์แต่อย่างใด

คลื่นลมแรง เรือลากอับปางกลางอ่าวไทย เรือ ต.114 ช่วยรับลูกเรือขึ้นฝั่ง

คลื่นลมแรง เรือลากจูงอับปางกลางอ่าวไทย เรือ ต.114 ช่วยรับลูกเรือขึ้นฝั่ง ส่วนภารกิจค้นหา กำลังพลหาย ชุดค้นหาทั้งผิวน้ำ และเดินเท้าตรวจริมตลิ่ง ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม

ภารกิจค้นหากำลังพลหาย วันนี้ (8 มกราคม66) พล.ร.อ. ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เผยออกมาว่า ปัจจุบัน กองทัพเรือยังคงจัดการค้นหาผู้สูญหายจาก เรือหลวงสุโขทัย อับปาง อย่างตลอด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามแนวชายฝั่ง ซึ่งรับความร่วมแรงร่วมมือจาก ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 (ศรชล.ภาค 1) ศรชล.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ศรชล.จ.ชุมพร รวมถึง ชุดปฏิบัติการพิเศษ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ เข้าจัดการค้นหา และช่วยเหลือผู้สูญหาย บนเกาะต่างๆ โดยในช่วงเวลานี้ยังคงมีอุปสรรคจากคลื่นลมที่มีกำลังแรง อันเป็นผลจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และทะเลอันดามัน เป็นอุปสรรคต่อการค้นหาของเรือขนาดเล็ก

การค้นหากำลังพลกองทัพเรือจากเหตุการณ์เรือหลวงจังหวัดสุโขทัยอับปางนั้น ผลของการปฏิบัติตั้งแต่วานนี้จนกระทั่งวันนี้ (8 มกราคม66) เวลา 11.30 น. มีการจัดชุดค้นหาทั้งบนผิวน้ำรวมถึงการเดินเท้าตรวจสอบตามริมฝั่ง และเกาะต่างๆในพื้นที่จังหวัดชุมพร และจังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่ยังไม่เจอผู้สูญหายเพิ่ม

อย่างไรก็ตาม วานนี้ (7 เดือนมกราคม66) ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสุราษฎร์ธานี (ศรชล.จ.สุราษฎร์ธานี) ได้รับแจ้งว่า เรือลาก (Tug Boat) ชื่อพีแอล อาร์เธนา ได้ขอความช่วยเหลือ เหตุเพราะมีน้ำเข้าเรือ และเครื่องจักรใหญ่ดับอยู่บริเวณตอนบนเกาะพะงัน ก็เลยประสานส่งเรือตรวจประมง 320 เรือตำรวจน้ำ เรือ ปภ.จากเกาะสมุย เดินทางไปช่วยเหลือ ในขณะที่ ทัพเรือภาคที่ 2 ได้จัด เรือ ต.114 ออกให้การสนับสนุนช่วยเหลือพร้อมเครื่องสูบน้ำ ท่ามกลางคลื่นทะเลพัดแรง

ถัดมาในเวลา 13.30 น. เรือ ประมงชื่อ ณปภา ซึ่งอยู่ใกล้เรือเกิดเหตุมากที่สุดได้เข้าให้การช่วยเหลือลูกเรือ พีแอลอาร์เธนา ที่สละเรือและอยู่บนแพช่วยชีวิต ทั้ง 9 คนได้อย่างปลอดภัย แล้วต่อจากนั้น เรือ ต.114 ได้เข้าไปรับลูกเรือทั้งหมด ขึ้นบกที่สถานีเรือสมุย ทัพเรือภาคที่ 2 ต.ลิปะน้อย อำเภอเกาะสมุย โดยในจำนวนนี้มีผู้ป่วย 2 คน จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเกาะสมุย

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า วานนี้ (7 มกราคม66) ตรวจพบองค์ประกอบของโครงกระดูก และชิ้นเนื้อ รอบๆหาดนางลอย อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ เจ้าหน้าที่ได้นำชิ้นส่วนส่งให้กับตำรวจ สภ.ท่าชนะ กองพิสูจน์หลักฐานภาค 8 ส่งไปทำการตรวจชิ้นเนื้อที่ โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ล่าสุดผลการตรวจพิสูจน์จากแพทย์ โรงพยาบาลท่าชนะ ระบุว่า เศษชิ้นเนื้อติดกระดูกดังกล่าวไม่ใช่ชิ้นส่วนมนุษย์ และไม่ทราบว่าเป็น กระดูกสัตว์ชนิดใด

เรือลากจูงอับปางกลางอ่าวไทย
‘ยังไม่สิ้นหวัง’ ทร.ปรับแผนค้นหากำลังพลเรือหลวงสุโขทัย

กองทัพเรือเร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือกำลังพลที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ขณะที่การค้นหากำลังพลที่สูญหายอีก 5 นาย ยังดำเนินการต่อเนื่อง

แผนการค้นหากำลังพลเรือหลวงสุโขทัย ที่ยังสูญหายอีก 5 นาย วันนี้จะส่งทีมนักประดาน้ำจากกรมสรรพาวุธทหารเรือ นำกำลังพลเรือยางและอุปกรณ์ต่าง ๆ ไปสำรวจรอบเกาะรัง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อลงสำรวจใต้น้ำบริเวณจุดที่สงสัย เช่น พื้นที่โดยรอบเกาะและซอกหิน

นอกจากนี้ ยังชุดปฏิบัติการพิเศษของหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ หรือ หน่วยซีล พร้อมเรือปฏิบัติการความเร็วสูง และเรือยาง ออกค้นหาบริเวณเกาะต่าง ๆ ได้แก่ เกาะแกลบ เกาะยูง เกาะหนู เกาะแมว และเกาะกุลา จังหวัดชุมพร

ส่วนกำลังของศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาคที่ 1 หรือ ศรชล. ภาค 1 จะค้นหาตั้งแต่ท่าเรือประจวบ อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปจนถึงอำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร เน้นการสำรวจตามชายหาด ขณะที่ เรือหลวงและอากาศยาน ยังให้ออกลาดตระเวนต่อเนื่องไปถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี

ความปลอดภัยไซเบอร์ 1

เจาะลึกความท้าทายใหม่ด้านความปลอดภัยไซเบอร์ปี 2023 ที่องค์กรต้องรู้

Trend Micro เปิดความท้าทายด้าน ความปลอดภัยไซเบอร์ ปี 2023 พร้อมชี้ Cybersecurity จะเป็นกลจักรสำคัญ ขับเคลื่อนองค์กรในอนาคต

ในช่วง 2 ปีให้หลัง กระบวนการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน (Digital Transformation) เติบโตอย่างรวดเร็วทันใจเยอะขึ้นเรื่อยๆ ธุรกิจ นำเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญ ในการช่วยพัฒนาธุรกิจ ให้เติบโตแบบก้าวกระโดด รวมทั้งนำข้อมูล มาพินิจพิจารณาเพื่อส่งเสริมการตลาด แล้วก็ เข้าใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น

ระหว่างที่การทำงานของคน ถูกแปรไปเป็นแบบรีโมทเยอะขึ้น (Remote Working) นำมาซึ่งการทำให้ องค์กรทุกขนาด จะต้องปรับตัววางแผนการทำงานผ่าน คลาวด์ (Cloud) เพิ่มมากขึ้น

นางสาวปิยธิดา ตันตระกูล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เทรนด์ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด พูดว่า จากข้อมูลของ Gartner ซึ่งเป็นบริษัทศึกษาค้นคว้า รวมทั้ง พินิจพิจารณาข้อมูลทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ชั้นแนวหน้าของโลก บอกว่า ในปี 2025 องค์กรทั่วโลก จะใช้จ่ายกับคลาวด์มากขึ้น 20.4% ในเวลาที่ประเทศไทย เติบโตขึ้นถึง 36.6%

เมื่อองค์ประกอบเบื้องต้นเดินหน้าไปสู่การใช้คลาวด์ ทำให้ระบบ Security เข้ามามีบทบาทเยอะขึ้น เพราะ องค์กรต่างจำเป็นต้องรักษาข้อมูล (Data) ซึ่ง เป็นส่วนสำคัญของธุรกิจ ให้ปลอดภัย

“เพราะฉะนั้นองค์กรที่ย้ายไปใช้คลาวด์ จะต้องวางแผนและดึงเรื่อง Security เข้ามามีบทบาทมากขึ้น จะต้องวางรากฐานด้านความปลอดภัยไว้ตั้งแต่เริ่มต้น”

ความปลอดภัยไซเบอร์ 2

เตรียมรับมือ ความท้าทายใหม่ ความปลอดภัยไซเบอร์ Security ในปี 2023

ตอนนี้การเปลี่ยนแปลงองค์กรสู่คลาวด์นั้น ยังมีความท้าทายจากพนักงานฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ ไม่ว่าจะเป็น การย้ายระบบต่าง ๆ จากเซิร์ฟเวอร์บริษัท (On Premise) ขึ้นไปใช้บนคลาวด์ การตั้งค่าต่าง ๆ บนคลาวด์ให้ Compile ตามมาตรฐานสากล GDPR ของสหภาพยุโรป แล้วก็ PDPA ของไทย รวมทั้งการเรียนรู้เครื่องมือ (Tools) ต่าง ๆ จากคลาวด์หลาย ๆ รายพร้อม ช่วงเวลาเดียวกันยังจำต้องจัดการกับความท้าทายใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น ในปี 2023 ซึ่ง ทาง Trend Micro ได้เดาไว้ ดังนี้

การนำ Tools ใหม่ ที่ไม่สอดคล้องกันมาใช้ จะส่งผลเสียต่อองค์กร – ในตอน 3 ปีที่ล่วงเลยไป เทคโนโลยีใหม่ ๆ ถูกนำเข้ามาใช้อย่างเร็วทันใจ ตอนที่ ผู้บริหาร หรือ พนักงาน ยังไม่คุ้นเคยกับระบบต่าง ๆ ทำให้ไม่มีความรู้ ด้านการบริหารข้อมูล

Ransomware จะต่อกรยากขึ้น – การโจมตีจะถูกเปลี่ยนจากการจู่โจมที่จุดเดียว เป็นการโจมตีแบบ Series หรือ กระจายกำลังจู่โจมหลายจุด ทำให้องค์กรต่อกรได้ยากขึ้น แล้วก็ การจู่โจม จะไม่ใช่เพื่อความเพลิดเพลินอีกต่อไป แต่จะเป็นธุรกิจ หรือ ransomware-as-a-service ซึ่ง หากผู้บริหาร และก็ ผู้ใช้ไม่มีความรู้ จะถูกจู่โจมได้ง่ายขึ้น

ขอบเขตขององค์กร (Enterprise Perimeter) คือ ทุกที่ – การจะเดินหน้าธุรกิจ องค์กรจะต้องรองรับการทำงาน แบบ Hybrid ซึ่ง การวางรากฐานให้ทำงานจากที่ใดก็ได้นั้น จะมีความจำเป็นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในอนาคต ขณะเดียวกันจำเป็นที่จะต้องป้องกันการจู่โจม ที่เกิดจากการทำงานแบบรีโมท ด้วยด้วยเหมือนกัน

ภัยคุกคามทางสังคม (Social Engineering) จะปรับปรุงอย่างไม่หยุดยั้ง – การโกงบนเครือข่ายสังคม มีการพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ ในปีที่ผ่านมานั้นมีทั้งการส่งข้อความ โทรศัพท์มาปลอมตัว ว่าเป็นคนรู้จักกัน ซึ่ง คนเหล่านี้ได้มอนิเตอร์พฤติกรรม และ เลือกหลอกเงิน ในปริมาณซึ่งสามารถให้ได้ ซึ่งภัยรุกรามรูปแบบนี้ Trend Micro ได้คอยเตือนผู้ใช้อยู่ตลอด ในระยะเวลา 3 ปี ที่ผ่านมา

ช่องโหว่ (Vulnerabilities) จากโปรแกรม จะตกเป็นเป้าจู่โจม – การย้ายข้อมูลต่าง ๆ ขึ้นสู่คลาวด์ หลายองค์กรมักจะเลือกใช้โปรแกรม ที่เป็น Open – source มากขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่ได้นึกถึงความปลอดภัย จากช่องโหว่ของโปรแกรม

โรงงานอุตสาหกรรม (Industrial) จะตกเป็นเป้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ – อุตสาหกรรมในยุค 4.0 นั้น ใช้ระบบออโตเมชัน และก็ ระบบอินเทอร์เน็ต เข้ามาควบคุมการทำงานเป็นหลัก การทำงานในโรงงาน ก็เลยไม่ใช่ระบบปิดอีกต่อไป สามารถถูกโจมตีจนถึงสายการผลิตหยุดดำเนินการได้ด้วยเหมือนกัน จากเทรนด์ดังที่กล่าวถึงมาแล้ว จะเห็นว่า

Cybersecurity เข้ามามีบทบาทมากเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดความโปร่งใสสำหรับเพื่อการทำธุรกิจ และ ยังสามารถพินิจพิจารณา เดา ว่าองค์กรจำเป็นจะต้องจัดการกับอะไรที่อยู่ในอนาคต แล้วก็ จะปกป้องตัวเองอย่างไร

ความปลอดภัยไซเบอร์ 3

Cybersecurity ขับเคลื่อนผ่าน People, Process และ Technology

จากความท้าทายใหม่ ความปลอดภัยไซเบอร์ หรือ Security ในปี 2023 องค์กรจำต้องรับมืออย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะว่าการขับเคลื่อนองค์กร ด้วยข้อมูลนั้น ขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่การวิเคราะห์ ทั้งผลประกอบการ กลยุทธ์ แล้วก็ เมื่อข้อมูลเป็นขุมทรัพย์ที่สำคัญ ขององค์กร ถ้าหากว่าถูกโจมตี กระทั่งเสียหาย จะก่อให้ลูกค้าขาดความเชื่อมั่น ช่วงเวลาเดียวกันคู่แข่งขันก็บางทีอาจจะใช้โอกาสนี้ สำหรับเพื่อการจัดแคมเปญเพื่อเอาชนะในทางธุรกิจ

ด้วยเหตุผลดังกล่าว องค์กรก็เลยจำต้องให้ความเอาใจใส่กับ 3 ส่วน ดังนี้

People – เนื่องจากว่า สาเหตุของการถูกโจมตีส่วนมากนั้น มาจากการขาดวิชาความรู้ รวมทั้ง ลักษณะการจู่โจม มีการพัฒนาเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา องค์กรควรให้ความใส่ใจกับการผลิต ความตระหนักรู้ ด้าน Cybersecurity กับบุคลากร อย่างสม่ำเสมอ เพื่อ สร้างความมั่นคงให้กับองค์กร ในระยะยาว

Process – ปรับกระบวนการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ด้วยเทคโนโลยี เพื่อไปสู่เป้าหมายองค์กร เดี๋ยวนี้คนทำงานได้จากทุกแห่ง องค์กรจำเป็นต้องพร้อมสำหรับในการจัดแจงอุปกรณ์ ให้ทุกคนสามารถเชื่อมต่อการทำงานได้ เปลี่ยนระบบ Manual ต่าง ๆ ให้เป็น Automation เพิ่มมากขึ้น เพื่อความรวดเร็ว และก็ ลดความยุ่งยาก ของการเดินเอกสาร

Technology – วางองค์ประกอบเบื้องต้นทางเทคโนโลยี ให้มีความพร้อม ด้านการรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์กรที่ย้ายข้อมูลขึ้นเขาคลาวด์ จำเป็นต้องสร้างความแข็งแรง เลือกพาร์ทเนอร์ที่เข้ามาส่งเสริมเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย ที่มีทิศทาง การพัฒนาเทคโนโลยีในอนาคต สามารถเปิด API รองรับกับคลาวด์ต่าง ๆ ได้ รวมถึงการมีกลุ่มช่วยเหลือที่แข็งแรง

Cybersecurity Platform ส่วนสำคัญ ที่ตอบโจทย์ลูกค้า Trend Micro

อย่างไรก็ตาม Trend Micro มีเป้าหมายชัดเจนสำหรับการสร้าง Cybersecurity Platform ผ่านการร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับลูกค้า มากกว่าแค่ขายโซลูชัน เนื่องจากต้องการบูรณาการ ส่วนประกอบเบื้องต้นของลูกค้าทั้งระบบ ให้มีความโปร่งสบายใส สามารถตรวจสอบภัยคุกคาม เพื่อปกป้องเชิงรุกได้ (Threat Hunting) รวมถึงการโต้ตอบต่อภัยรุกรามอย่างทันท่วงที (Incident Response) ซึ่ง เป็นลักษณะเด่นของผลิตภัณฑ์

ด้านการให้ความรู้ความเข้าใจ บริษัทวางแบบเทรนนิ่ง ให้กับลูกค้า โดยแบ่งเป็นหลักสูตรสำหรับ C Level , Operation, IT และ End User แยกจากกัน เพราะ ต้นแบบการถูกจู่โจมของบุคลากรแต่ละระดับนั้น แตกต่างกัน ถ้าเกิดผู้ใช้เพียงผู้เดียวในบริษัทที่ไม่มีความรู้ หรือไม่ตระหนักถึงความปลอดภัย ก็อาจส่งผลให้องค์กรถูกจู่โจมจนถึงเสียหายทั้งบริษัทได้

เวลาเดียวกัน Trend Micro มีผู้สนับสนุนระดับนานาชาติ ทั้ง AWS, Google และก็ Microsoft และ สิ่งจำเป็นท้ายที่สุดคือ Trend Micro มีกลุ่มสนับสนุนที่แข็งแรง มีคนที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้าน Cybersecurity ในเมืองไทย และผ่านการดูแลลูกค้าคนประเทศไทยมามากกว่า 18 ปี

ทั้งในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ธนาคาร รวมถึงภาครัฐ โดยเหตุนั้น การมีพื้นฐานด้านความปลอดภัยที่มั่นคงแข็งแรง จะก่อให้องค์กรสามารถคุ้มครองข้อมูล ไม่ให้หลุดออกไปภายนอก และ ยังช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นและมั่นใจต่อลูกค้า ที่เข้ามาใช้บริการได้อีกด้วย

แมทธิว ดีน

“แมทธิว ดีน” ไม่รู้จะสอนยังไง! “น้องเดมี่” หยิก “ใหม่ ดาวิกา” ด้าน “ลีเดีย” น้อยใจ ถูกด่าไม่สอนลูก

“แมทธิว ดีน” เผย “น้องเดมี่” หยุม “ใหม่ ดาวิกา” หลายรอบ งานแรกก็เอาเลย สร้างตำนาน เปลี่ยนเป็นมีมไปทั่ว รับถูกคนตำหนิไม่สอนลูก จนกระทั่ง “ลีเดีย” น้อยอกน้อยใจ แต่ยันสอนลูกไม่ให้รังแกใคร ส่วนที่หยิกใหม่ เจ้าตัวน่าจะคาดว่าเป็นไฝเท่านั้น ลั่นตัวจริงแสบมากมาย

เป็นทั้งตำนาน รวมทั้ง เปลี่ยนเป็นมีม สำหรับกรณีที่ “น้องเดมี่” ลูกสาว “แมทธิว – ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ ดีน” เอื้อมมือไปหยิก “ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่”

รวมทั้ง ขี่คอ “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” แม้จะเปลี่ยนเป็น ภาพฮา ๆ ทั่วโซเชียล

แต่ก็มีคนเข้าไปต่อว่าต่อขาน พ่อ แม่ ว่าทำไมไม่สอนลูก งานนี้ชายหนุ่มแมทธิว เลยขอชี้แจง ในงาน ThaiHealth Watch 2023 สังคมปรับ ชีวิตเปลี่ยน ที่จะมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การ สำหรับการเลิกบุหรี่

แมทธิว ดีน2

แมทธิว ดีน กล่าวว่า เราก็เปิดภาพให้เขามอง แต่เขาคงจะจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

“เป็นประเด็นที่ไม่น่าเชื่อ ว่าจะเป็นเรื่องเป็นราวได้ ผมมาเห็นภาพทีหลังแล้ว ว่าเดมี่ทำอะไรลงไป หยุมพี่ใหม่ แล้วหลายรอบเลยด้วย ในเหตุการณ์คือ ผมอุ้มเดมี่อยู่ แล้วใหม่ก็อยู่ใกล้ ๆ ตอนนั้นก็เห็นว่า เหมือนมีอะไรเคลื่อนไหว แต่เราถ่ายรูปอยู่ ก็ยิ้มสู้กล้องไว้ก่อน เดมี่ก็ขยับเยอะ ใหม่ก็ขยับ เลยหันไปมอง ก็บอก เดมี่ใจเย็น ๆ งานแรกก็เอาเลย สร้างตำนาน แต่ผมก็เข้าใจว่า หยิกไฝ

เพราะก่อนหน้านั้นเขาก็หยิกคอผม ที่มันน่าจะมีไฝ หรือ มีอะไรอยู่ แล้วใหม่ก็บอก เขาเองก็มีไฝอยู่ตรงนั้น เลยคิดว่าน่าจะใช่ คงไม่ได้หมั่นขนาดนั้นหรอก

เด็กยังโตไม่พอ ที่จะเข้าใจอารมณ์ตรงนั้น น่าจะเป็นการหยิกไฝใหม่ ฟีลแบบว่า อยากจะหยิกออกให้ อาจจะคิดว่าเป็นสติ๊กเกอร์รึเปล่า เขาอยู่ในวัยสงสัย เห็นใครมีรอยข่วนที่มือ ก็จะสงสัยว่าเป็นอะไรเหรอ ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ เขาจะตามจะสงสัย

ซึ่งผมเองก็ได้เปิดภาพให้เขาได้ดู แต่เขาก็จำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ว่าทำอะไรไป เพราะมันผ่านไปแล้ว ก็คุย ๆ กัน ถามเขาว่าวันนั้น เดมี่ หยิก พี่ใหม่ เหรอ เขาก็จะตอบกวน ๆ ตามสไตล์ เดมี่หยิกพี่ใหม่ ส่วนเรื่องแซวลูก ว่าหยิกพี่ใหม่เพราะสวยกว่า แซวเล่นกันในครอบครัว เดียเขาก็คุยกับใหม่อยู่ ใหม่เป็นคนบอกเองว่าน่าจะเป็นไฝ” รับถูกติเตียนเช่นกัน ว่าไม่สอนลูก ปล่อยให้หยิก ผู้อื่น ไปทั่ว ยันสอนลูกตลอด ไม่ให้ทำร้ายใคร

“ส่วนที่เขาเพิ่งไปฉีดยามา อันนี้เป็นอีกเรื่องนึง ที่ฮาเหมือนกัน ถ้าได้ดูวิดีโอ จะเห็นใหม่ทำหน้า… แต่ก็ขอสู้ก่อน สักพักเริ่มเจ็บแล้ว เดมี่ก็ตลก เด็กวัยนี้ทำอะไรแปลก ๆ เยอะ ทำอะไรก็น่ารักครับ แต่ถ้าโตกว่านี้ ก็อาจจะไม่น่ารักแล้ว อาจจะมองว่าเด็กคนนี้มันยังไง ก็มีคนแซวเหมือนกัน ว่าทำไมไม่สอนลูก ปล่อยให้ไปหยิกคนอื่น เขาเป็นเด็กแหละ ไม่ได้ทำแรงขนาดนั้น

คือ ส่วนตัวผมคิดว่า เขาอาจจะแค่รู้สึกเจ็บ ตรงที่เขาไปฉีดวัคซีนมา เขาคงจะพยายามดึงออก เพราะคิดว่ามันเป็นสติ๊กเกอร์

คอมเมนต์อีกมุมก็มีบ้าง ไม่เยอะ ไม่รู้จะสอนยังไงครับ มันเป็นเรื่องที่เราคาดไม่ถึงจริง ๆ ว่าคนจะคิดไปในแนวนั้นได้ เราไม่ได้คิดแบบนั้น

แต่ก็เข้าใจว่า บางคนอาจจะเป็นแฟนคลับของใหม่ อาจจะไม่อยากให้ เดมี่ ไปทำพี่ใหม่เจ็บ ก็บอกตรง ๆ นะ แน่นอนเลยว่าลูกเราทั้งสองคน เราสอนแน่นอนว่า ไม่ให้เขาไปทำร้ายใคร แม้แต่สัตว์ เราก็ไม่ให้เขาทำ ตีแมงมุม ตีแมลงสาบ เราก็ไม่ให้ทำ

เราสอนให้เขาเคารพชีวิตคนอื่น รวมไปถึงสัตว์ด้วย เดมี่ คงไม่ได้อยากจะทำให้ใหม่เจ็บหรอก บางคนอาจจะพิมพ์แหย่มาเล่น ๆ ให้เรามีรีแอ็คชั่นกลับไป ก็ได้สนใจ แต่เดียจะรู้สึกมากกว่าผม เขาก็มาคุย ว่ามันมีคนคิดแบบนี้นะ ทำไมเขาต้องพูดอย่างนี้ ผมก็บอกไม่เป็นไร มันเป็นส่วนน้อย ไม่เป็นไรหรอก 99% คนเข้าใจ ว่า เดมี่ เล่น เขาก็จะน้อยใจ ว่าทำไมมาว่าเดมี่”

แมทธิว ดีน3

ยันติว เดมี่ ก่อนออกงานแล้วนะ

“นี่ก็ติวเข้มก่อนออกมาแล้ว(หัวเราะ) เดมี่ อยู่ดี ๆ นะ อย่าไปวิ่งเล่น ซน ไปยกกระโปรงที่ไหน ไม่ได้นะ ต้องอยู่ในความสำรวม เราเป็นผู้หญิง แต่ก็อย่างว่าครับเด็ก มันก็มีอะไรที่เราคาดไม่ถึง เดมี่ เคยเจอใหม่น่าจะประมาณ 3 ปี ก็แซวกัน น่ารักดี แล้วใหม่นี่เป็นเฟิร์สคิส ของดีแลนเลยนะ สมัยนั้นยังไม่มี โควิด-19 ก็ทักทายกัน จุ๊บนิดนึง น่าอิจฉา”

ขำ ๆ สร้างตำนาน ขี่คอใบเฟิร์น พิมพ์ชนก บอกลูกชอบสตรีงาม

“น่าจะเป็นวันที่เราไปถ่ายงานที่สตูดิโอใกล้ ๆ กัน แล้วรู้จักกับทีมงานของใบเฟิร์นอยู่แล้ว ก็เลยแวะไปเดินเล่น เที่ยว และ ถ่ายรูปกัน เดมี่ช่วงหลังเขาค่อนข้างเจอคนเยอะ เขาจะเฟรนด์ลี่พอสมควร ดีแลนจะขี้อาย เจอใครก็จะยิ้ม ๆ ไม่เล่นด้วย เดมี่ เขาชอบผู้หญิงสวย ๆ ชอบอะไรที่เป็นเพชร ๆ ประกาย ผู้หญิงนะ

เวลาไปงานมิสแกรนด์ ผมเป็นพิธีกร เขาก็จะอยู่หลังเวที แล้วเขายืนมองนางงามสวย ๆ ดีแลน คือวิ่งเล่นอย่างเดียวเลย ก็เข้าใจว่าผู้หญิงชอบอะไรแบบนี้ ทาเล็บ ทำผมสวย ๆ เขาจะชอบเวลาอยู่บ้านก็จะเล่นแตกต่างจากผู้ชายหน่อย ดีแลน จะเป็นรถ ไดโนเสาร์ เดมี่ จะรักสวยรักงาม อาจจะอยู่กับแม่เขาเยอะด้วย แม่เขาทำผิว ทำผม ทำหน้า เขาก็จะเป็นแบบนั้น ตลกดี”

รับตัวจริงแสบมาก

“ส่วนที่มองว่ากลายเป็นตำนาน เข้าใจว่า หลายคนอาจจะเห็นในสื่อว่าเขาดูน่ารัก แต่เวลาอยู่บ้านเขากวนมาก แบบเป็นเด็กผู้หญิงนะ แสบอยู่ ไม่ธรรมดา (ลีเดีย บอกแสบกว่า ดีแลน 2 เท่า?) ดีแลน ว่ากวนแล้วนะ เดมี่ คือเป็นอีกแบบหนึ่ง กวนแบบหน้านิ่ง รู้ว่าทำอะไรก็ไม่ค่อยมีใครว่า ใครโกรธ เท่าไหร่

ด้วยความที่เป็นหญิงคนเดียวในบ้าน ก็จะยอม ๆ หน่อย ดีแลน ก็ตีจนร้องไห้แหละโดยไม่รู้ตัว คือเรียก ดีแลน พี่แหละ แต่ตีแรง ดีแลน ก็ไปร้องไห้ แต่ก็ไม่โกรธน้อง เวลาที่มีอะไรแบบนี้เกิดขึ้น เราก็ดูที่เจตนามากกว่า เราก็พยายามสอน ให้เขาขอโทษ และ ให้อภัยกัน

ถ้าถามว่าได้ใครมา ก็ไม่รู้ อะไรที่ไม่ดี มักจะมาอยู่ที่ผม แต่ เวลาน่ารักเป็นแม่ ตามสไตล์ สนุกครับช่วงนี้ จะพยายามหากิจกรรม รวมไปถึง ดีออน ที่ยังเด็กมาก ตอนนี้น่าจะ 2 เดือน เริ่มขยับตัวได้ คิ้วเริ่มขึ้นแล้ว

แต่จะเหนื่อยมากขึ้น ตรงที่ว่า 2 คนก็คือโตแล้ว ส่วนคนนี้ก็เล็กก็เลี้ยงแยกกัน บางทีออกไปทำงานเยอะ ก็กลัวเรื่องการเป็นหวัด แต่ 2 พี่เขาอยากจะมีส่วนร่วมมาก ชอบที่จะไปเลี้ยง ช่วยแต่งตัว อาบน้ำ เดมี่ ชอบเลยเป็นสไตล์เจ๊”

หมอโอ๋

เผยข้อมูล "หมอโอ๋" ทำธุรกิจร่วมกับน้องชาย "อั้ม ภูมิพัฒน์" หนึ่งบริษัท

MGR Online – เปิดเผยข้อมูลบริษัทที่ หมอโอ๋ เลี้ยงลูกนอกบ้าน เป็นกรรมการร่วมกับน้องชาย อั้ม ภูมิพัฒน์ สามี แยม ธมลพรรณ์ ที่ถูกฟ้องร้องคดีฟอกเงินเอี่ยวเว็บพนัน – หนังอาร์

หลังเจ้าตัวอ้างถึงว่า ไม่เคยรู้เรื่องธุรกิจ และ ไม่ใช่เรื่องของตนเอง เจอเป็นที่ตั้ง คลีนิคเสริมความสวย บริเวณ โยธินพัฒนา

วันนี้ (18 ธันวาคม) จากกรณีที่ตำรวจกองปราบปราม สนธิกำลังศูนย์ปราบปรามอาชญากรรม ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) จับ นาย ภูมิพัฒน์ หรืออั้ม ประเสริฐวิทย์ อายุ 42 ปี นายเชษฐ์ชัย หงส์คำ อายุ 38 ปี รวมทั้ง นางสาวธมลพรรณ์ หรือแยม ประเสริฐวิทย์ อายุ 40 ปี อดีตผู้แสดง ภรรยานายภูมิพัฒน์ ที่บ้านพัก

หลังสืบรู้ว่า เป็นโครงข่าย ลักลอบเปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์ ทายผลบอลโลก แล้วก็ คลิปลามกอนาจาร พบของกลาง รถซูเปอร์คาร์ รถจักรยานยนต์ นาฬิกาหรู กระเป๋าแบรนด์เนม คอมพิวเตอร์ 5 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 18 เครื่อง เงินสด 42 ล้านบาท บ้านพักหรู รวมราคา เงินทองกว่า 700 ล้านบาท

หมอโอ๋2

ย้อนกลับมา “แยม ธมลพรรณ์” อดีตดาราสาว ทรัพย์สิน 22 ล้าน ไหม้ที่เกาะกูด ถูกจับ พร้อมสามี คดีฟอกเงินเว็บไซต์พนัน

ถัดมา พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร หรือ “หมอโอ๋” กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น แผนกแพทยศาสตร์รามาธิบดี

ผู้ครอบครองเพจมีชื่อเสียง “เลี้ยงลูกนอกบ้าน” ซึ่ง เป็นพี่สาว นายภูมิพัฒน์ โพสต์เนื้อความชี้แจงว่า บ้านมีฐานะพอเหมาะพอควร บิดาทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ไม่ได้ตรากตรำด้านการเงิน

น้องชายทำธุรกิจโทรศัพท์มือถือ มีรายได้มาตั้งแต่อายุน้อย ๆ ทราบดีว่าน้องนำเงินไปร่วมทุน และก็ เหรียญคริปโตฯ ในตอนเจริญรุ่งเรือง

กระทั่งมีรายได้มากมาย อีกทั้ง ไม่ได้ทราบเรื่องเนื้อหาของงาน ที่ญาติพี่น้องแต่ละคนทำนัก ไม่เคยทราบเรื่องธุรกิจ ที่เป็นข่าว การันตีว่าตน แล้วก็ครอบครัว มิได้มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่เป็นข่าว และ ไม่ใช่เรื่องของตนเอง

“บ้านเราเป็นบ้านที่มีฐานะพอสมควร คุณพ่อทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เราไม่ได้ลำบากเรื่องการเงิน น้องชายทำธุรกิจโทรศัพท์มือถือมีรายได้มาตั้งแต่อายุน้อยๆ ข้อมูลที่หมอทราบ น้องนำเงินไปลงหุ้นและเหรียญคริปโต ในช่วงรุ่งเรืองจนมีรายได้มาก

“บ้านเราเป็นพี่น้องที่สนิทกัน แต่พอเราโตกันเป็นผู้ใหญ่ ต่างคนต่างมีครอบครัวของตัวเอง เราไม่ได้ทราบเรื่องรายละเอียดของงานที่แต่ละคนทำนัก (และถ้าเรื่องนี้เป็นจริง น้องก็คงไม่ได้อยากให้รับรู้อะไรนัก)” พญ.จิราภรณ์ระบุ

หมอโอ๋3

“หมอโอ๋ เลี้ยงลูกนอกบ้าน” ยันไม่รู้เรื่องธุรกิจสีเทาของน้องชาย

รายงานข่าวสารแจ้งว่า จากการค้นข้อมูลที่ได้มาจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าขาย กระทรวงพาณิชย์ พบว่า พญ.จิราภรณ์ หรือแพทย์โอ๋ กับ นายภูมิพัฒน์ หรือ อั้ม ซึ่งเป็นน้องชาย มีชื่อกรรมการบริษัทด้วยกัน 1 แห่ง คือ บริษัท ดิอิมเม็จเมดิคอลเอสเทติก จำกัด ลงทะเบียนตั้งขึ้น ตอนวันที่ 9 ส.ค. 2556 ทุนจดทะเบียน 3 ล้านบาท

จุดหมาย ตอนจดทะเบียน ประกอบกิจการประมูล เพื่อรับจ้างทำของ ตามเป้าประสงค์ทั้งหมด ให้แก่บุคคล คณะบุคคลนิติบุคคล ส่วนราชการ

วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีปัจจุบัน ให้บริการเสริมความงดงาม ที่ตั้งที่ทำการ แห่งใหญ่ 249 ซอยโยธินพัฒนา แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร

มีกรรมการบริษัท 5 คน

ดังเช่นว่า นายภูมิพัฒน์ ประเสริฐวิทย์, นางจิราภรณ์ อรุณากูร, นางทิศณา ประพันธศิริ โรเซน, นายชาคริต ปิลันธนากร, นายปรัชญ์ พึ่งเจษฎา และนายกิดากร กิระนันทวัฒน์ กรรมการลงชื่อผูกพัน มีนายภูมิพัฒน์ ประเสริฐวิทย์, นายชาคริต ปิลันธนากร, นายปรัชญ์ พึ่งเจษฎา, นายกิดากร กิระนันทวัฒน์ สามในสี่คนลงชื่อด้วยกัน

และ ประทับสำคัญ ของบริษัท ปีงบการเงิน 2564 มีสินทรัพย์ รวม 25,877,727.14 บาท หนี้สินรวม 15,744,807.68 บาท มีรายได้รวม 32,290,161.55 บาท รายจ่ายรวม 29,821,131.72 บาท กำไรสุทธิ 1,970,944.17 บาท

และก็ จากการค้น ผู้ถือหุ้น บริษัท ดิอิมเม็จเมดิคอลเอสเทติก จำกัด เพิ่ม พบว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ นายกิดากร กิระนันทวัฒน์ รองลงมาคือ นายปรัชญ์ พึ่งเจษฎา, นายชาคริต ปิลันธนากร และก็ มี นางจิราภรณ์ อรุณากูร กับนายภูมิพัฒน์ ประเสริฐวิทย์ เป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 4 รวมทั้ง 5 โดยมีสัดส่วน เสมอกัน ส่วนนางทิศณา ประพันธศิริ โรเซน มีหุ้นส่วน ต่ำที่สุด

ยิ่งกว่านั้น ที่ตั้งที่ทำการแห่งใหญ่ ยังเป็นที่ตั้งเดียวกับ บริษัท กู๊ดไทม์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด จากการสืบค้นพบว่า ขึ้นทะเบียนตั้งขึ้นตอนวันที่ 30 ม.ค. 2555 ทุนเพื่อการจดทะเบียน 40 ล้านบาท

วัตถุประสงค์ตอนจดทะเบียน ประกอบกิจการ สถานศึกษา กวดวิชา โดยไม่ได้เป็นการสอนในเวลาปกติ วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ให้บริการสาธารณูปโภค มีนางสาวอรอนงค์ ภู่เจริญ เป็นกรรมการบริษัท

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบที่ตั้ง บริษัทเพิ่มอีก พบว่า เป็นที่ตั้งของ โครงการทเวนตี้โฟร์เฮ้าส์ (24 House) ปากซอยโยธินพัฒนา ถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลาะทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา) ตรงข้ามห้างขายเครื่องเรือนชิครีพับลิค

โดยพบว่า เป็นตึก 2 ชั้น ผู้เช่าจำนวนมาก เป็นคลีนิคเสริมความสวยสดงดงาม

โดยมีร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น อยู่ชั้นล่าง หนึ่งในนั้น คือ คลีนิคเสริมความงาม ที่ชื่อว่า ดิ อิมเมจ เมดิคัล แอสเธติก เซ็นเตอร์ (The Image Medical Aesthetic Centre)

บิ๊กตู่

“บิ๊กตู่”ไปต่อไม่รอช้า ประกาศรวมไทยฯกลางเดือนนี้!?

การบ้านการเมืองเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ “บิ๊กตู่” ไปต่อไม่รอช้า หลายพรรคเริ่มขยับเขยื้อนกันคึกคัก ทั้งการออกแนวนโยบายใหม่ เพื่อหาคะแนนนิยม และก็ การเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร รองรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง อย่างไรก็ดี นาทีนี้ผู้ที่ “คุมเกม” ก็ยังเป็น “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และก็ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อยู่ดี โดยยิ่งไปกว่านั้น อำนาจในการ “ยุบสภา” ที่อยู่ในมือเต็มเปี่ยม

ทำให้เวลานี้ หลายข้างกำลังจ้อง และก็ พินิจการเปลี่ยนแปลงของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าจะ “ลงมือ” เมื่อใด เพราะเหตุว่าการยุบสภา ย่อมส่งผลด้านการเมือง กับทุกพรรค และก็ ทุกกรุ๊ปการบ้านการเมืองเป็นลูกโซ่ เวลาเดียวกัน การตัดสินใจของเขา ไม่ว่าจะออกมาในแบบยุบสภา หรือว่า ปลดปล่อยยาวจนถึงครบวาระ มันก็ล้วนมีนัยยะด้านการเมืองทั้งสิ้น

ถ้าหากแยกจุดโฟกัส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมา แน่ ๆว่าทุกคนก็พอคาดคะเนกันได้อยู่แล้วว่า เขาต้องการไปต่อ อีกสองปี โดยชอบด้วยกฎหมายที่เปิดช่องเอาไว้ให้ รวมถึง รอดูว่า จะมีการเปิดตัวกับ พรรครวมไทยสร้างชาติ และก็ ยุบสภาเมื่อใด

ปัจจุบัน เมื่อเที่ยงวันที่ 12 เดือนธันวาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวก่อนเริ่มเดินทางไปยังกรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอด อาเซียน – สหภาพยุโรป ยุคพิเศษ เพื่อฉลองวันครบรอบ 45 ปี ความเชื่อมโยง อาเซียน – สหภาพยุโรป (ASEAN – EU Commemorative Summit) ระหว่างวันที่ 12 – 15 เดือนธันวาคม 2565

บิ๊กตู่2

โดยเมื่อมาถึง “บิ๊กตู่” นายกฯได้ทักสื่อมวลชนว่า อยู่กันดี ๆ นะ

แล้วหลังจากนั้นให้สัมภาษณ์หลังผู้รายงานข่าวถาม มีความเป็นห่วงบ้านเมืองอะไร หรือไม่ ระหว่างที่เดินทางไปเบลเยียม ว่า ไม่เป็นห่วงอะไรทั้งนั้น มีคนทำงานอยู่แล้ว เป็นการดำเนินการไปตามระบบ นายกฯ ไม่อยู่ ก็มีรักษาการแทน ส่วนงานเขาก็ทำกันอยู่ทุกวัน เพราะเหตุว่า ระดับแนวนโยบาย นายกฯได้ออกคำสั่งไปหมดแล้ว กรรมการแต่ละระดับ เขาก็ดำเนินการไป ผลสัมฤทธิ์ก็ตามมา

“ก็เป็นห่วงอย่างเดียวคือ เรื่องปัญหาความขัดแย้ง ลดๆกันเสียบ้าง เสนอข่าวอะไรก็เบาๆหน่อย สิทธิที่เขาจะพูดอะไรก็พูดได้ ไม่อย่างนั้นจะมีผลกับการทำงาน ในเวลานี้หลายอย่างจะต้องดำเนินการต่อ หนึ่ง สอง สาม ผ่านระยะที่ 1 ก็ต้องมีระยะที่ 2 ระยะที่ 3 ไปทำต่อ ถ้าพูดกันแล้วขัดแย้งกันไปทุกเรื่องจะไปได้อย่างไร วันเวลาที่เหลืออยู่ก็มีเวลาไม่มากนักหรอก ของรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญ ทุกอย่างว่าไปตามนั้นหมด” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ

เมื่อถามถึงกรณีผลจากการสำรวจ นิด้าโพล ที่คะแนนนิยม พล.อ.ประยุทธ์ ลดลง นายกฯกล่าวว่า ไม่รู้จักโพล ใครทำก็ไม่รู้จัก ใครทำ ใครตอบ ก็ไม่รู้จักเหมือนกัน ไม่เป็นผลอะไร พร้อมทำท่า ผายมือทั้งสองข้าง ผู้รายงานข่าวถามย้ำ ว่า ผลโพลจะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจ หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มี

เมื่อถามคำถามว่า กลับมาจากต่างประเทศคราวนี้ จะแสดงทีท่าด้านการเมืองที่แจ้งชัด ได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “กลับมาค่อยว่ากัน”

คำว่า “กลับมาค่อยว่ากัน” ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดังที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้ถูกตีความได้ว่า หลังจากเสร็จสมบูรณ์การประชุมสุดยอดหัวหน้า อาเซียน – อียู หลังวันที่ 15 เดือนธันวาคม ทุกอย่าง จะมีการประกาศความแจ้งชัดออกมา หรือไม่ และก็ เป็นการ ร่นเวลา เข้ามาให้เร็วขึ้นหรือไม่

เพราะเหตุว่าถ้าหากจำกันได้ ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา เขาเคยตอบคำถามว่า “หลังเอเปก ก็คือปีหน้า” ซึ่งตามความเป็นจริงในช่วงเวลานั้น ก็น่าจะเป็นต้นปีนั่นแหละ กับการถูกเซ้าซี้ ถามเรื่องอนาคตด้านการเมือง แม้กระนั้น อย่างไรก็ดี ก็ได้ความแจ้งชัดมาและจากนั้นก็คือ “จะไปต่ออีกสองปี” กับพรรครวมไทยสร้างชาติ

เพียงแต่ว่า ยังมิได้ประกาศอย่างเป็นทางการ เพราะเหตุว่าเชื่อว่าคือเรื่องของ “มารยาท” เพราะเหตุว่าเขาได้รับการเสนอชื่อ เป็นนายกฯ จากพรรคพลังประชารัฐ ด้วยเหตุนั้น ทำให้การประกาศท่วงท่าด้านการเมืองใหม่ ก็เลยจะต้องทอดเวลา ออกไปก่อน

บิ๊กตู่3

อย่างไรก็ดี เมื่อหลายพรรคการเมือง เริ่มมีการขยับเขยื้อน มีการเปิดนโยบายพรรค

รวมถึงการ “ย้ายพรรค” กันอย่างครึกโครม มันก็กลายเป็น ตัวกระตุ้นให้เขาจะต้องร่นเวลาเปิดตัว สร้างความแจ้งชัดด้านการเมือง อย่างน้อย ก็เป็นการสร้างความแน่ใจ และก็ การตัดสินใจของบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และก็ กรุ๊ปการบ้านการเมือง ได้ตัดสินใจ

อีกทั้งที่สำคัญยังมี “กลุ่มทุน” ที่จะต้องตัดสินใจด้วย เพราะเหตุว่า ถ้าหากขยับเขยื้อนช้า หรือยังเงียบถัดไป อาจมีผลต่อการเตรียมพร้อมของพรรครวมไทยสร้างชาติที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้แย้มออกมาให้เห็นแล้ว แม้กระนั้น ถึงอย่างไร มันก็ควรมีความแจ้งชัด

ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ถ้าตรวจบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และก็ กรุ๊ปการบ้านการเมือง ที่ประกาศแจ้งชัดว่าจะตาม “บิ๊กตู่” ไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็มี กรุ๊ป สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรภาคใต้ จำนวนหนึ่ง

มีรายชื่อแล้ว 3 – 4 คน กรุ๊ป สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร กรุ๊ปภาคกลาง ในสายของ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ที่มาตามกระแส แม้กระนั้น ยังเชื่อว่าหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ มีความแจ้งชัดแล้ว คงจะมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกคนจำนวนไม่น้อยตามมาอีก

ถึงแม้คนจำนวนไม่น้อยคิดว่า บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ย้ายมาร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ จำนวนมากจะมาจาก พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีความแตกต่างจาก “ตกปลาในบ่อเพื่อน” เป็นการตัดคะแนนกันเองก็ตาม

แม้กระนั้น เวลาเดียวกัน อีกด้านหนึ่ง ยังประมาทมิได้ก็คือ “กระแส” ที่การบ้านการเมืองไทยยังแบ่งเป็น “สองขั้ว” อย่างเหนียวแน่น ระหว่าง “เอา ไม่เอา” ระบอบทักษิณ หลัก ๆจะเป็นแบบงี้ ถึงแม้อาจจะมีกรุ๊ปใหม่ที่เติบโตขึ้นมานั่นคือ “กลุ่มคนรุ่นใหม่” แม้กระนั้นกลุ่มนี้ ก็หนุนพรรคก้าวไกล ที่ “ไม่เอาสถาบันฯ” เป็นหลักก็ตาม แม้กระนั้น เมื่อประเมินแล้ว เชื่อว่ายังมิได้เติบโต ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้ ในทางตรงกันข้าม กลับไป “บ่อนเซาะ” พรรคเพื่อไทยของเครือข่าย ทักษิณ เสียมากกว่า

ส่วนกรุ๊ปไม่เอาทักษิณ มองตามภาพรวม ๆ ก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาลในปัจจุบัน

ที่พิเคราะห์ตามรูปการณ์แล้ว จะมีพรรคภูมิใจไทย นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล และก็ “กลุ่มบุรีรัมย์” ที่เด่นขึ้นมา มีโอกาสแทรกขึ้นมา เป็นนายกฯหลังการเลือกตั้ง เพราะเหตุว่า มีการรุกคืบไปทุกภูมิภาค โดยยิ่งไปกว่านั้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เป็นจุดชี้ขาด แม้กระนั้นนั่น เป็นเพราะเหตุว่า “บิ๊กตู่” ยังไม่ขยับอย่างเต็มตัว

ด้วยเหตุนั้นเมื่อมีการแย้มออกมาแล้วว่า หลังกลับจากยุโรป หลังวันที่15 เดือนธันวาคม แล้ว เชื่อว่าจะต้องแจ้งชัด เพราะเหตุว่าฝ่ายตรงข้าม เริ่มเปิดเกมรุก และก็ ขยับไปไกลแล้ว อาจคอยมิได้แล้ว

และก็ เมื่อจะต้องประกาศท่วงท่า มันก็จะต้องเตรียม “ยุบสภา” เพื่อเปิดช่องให้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ย้ายพรรคได้ทัน ซึ่งถ้าหากเป็นแบบงี้ มันก็คงจะเลือกตั้งกัน หลังปีใหม่ ราวต้นปี ตามที่เคยประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา !!

พ่อค้าแห่งความตาย1

รีพับลิกันเย้ยหยัน!รบ.ไบเดนอ่อนข้อ รัสเซีย ยอมแลกตัว ‘พ่อค้าแห่งความตาย’ ที่ถูกจับในไทยกับนักบาสหญิง

การแลกเปลี่ยนครั้งนี้ ราชบัณฑิตยสถานไบเดนยอม รัสเซีย ยอมแลกตัว ‘พ่อค้าแห่งความตาย’ มีขึ้นตามหลังการพูดจานับเป็นเวลาหลายเดือน ขณะที่ความเคร่งเครียด ระหว่างสองประเทศพุ่งสูง ตามหลัง รัสเซีย เริ่มรุกราน ยูเครน ในเดือน กุมภาพันธ์ โดย ไกรเนอร์ ซึ่งโดนจับก่อนหน้าการรุกราน ประมาณ 1 อาทิตย์ ได้เดินทางจากทัณฑนิคมแห่งหนึ่ง ของ รัสเซีย ไปยัง มอสโก จากนั้นก็ถูกส่งตัวไปยังท่าอากาศยานอาบูดาบี ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จุดที่ใช้แลกตัว โดยทั้ง 2 คนเดินผ่าน กัน และ กัน บนลานบิน

บริตนีย์​ ไกรเนอร์ สตาร์ผู้เล่นบาสเกตบอลหญิงสหรัฐฯ ได้รับการปล่อยตัวแล้ว ผ่านการแลกตัวผู้ต้องขัง กับฝ่ายมอสโก

พ่อค้าแห่งความตาย2

โดยแลกตัวกับ วิคเตอร์ บูท พ่อค้าอาวุธข้ามชาติ ชาวรัสเซีย ฉายา “พ่อค้าแห่งความตาย”

และ มุ่งหน้ากลับสู่สหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี(8พฤศจิกายน) จบในสิ่งที่ผู้นำโจ ไบเดน เรียกว่าระยะเวลา “นรก” ยาวนานหลายเดือน สำหรับเธอ และ ครอบครัว อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวนี้ เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดเลือดพล่าน จากรีพับลิกัน

“เธอปลอดภัยดี เธออยู่บนเครื่องบิน เธอกำลังเดินทางกลับบ้าน หลายเดือน หลังจากถูกคุมขังโดยไม่ยุติธรรมใน ยูเครน ถูกคุมขัง ภายใต้สภาพแวดล้อม อันเหลือทน” ไบเดน บอกกับผู้สื่อข่าว ที่ทำเนียบขาว พร้อมเผยว่า เธอจะเดินทางมาถึงภายใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า “นี่เป็นวันที่เราทำงานหนัก มาเป็นเวลานาน เราไม่เคยหยุด ผลักดันให้มีการปล่อยตัวเธอ”

นอกเหนือจากนั้นแล้ว ไบเดน กล่าวต่อว่าสหรัฐฯ กำลังเดินหน้าดำเนินงาน เพื่อมีการปล่อยตัว พอล วีแลน อดีตนย.สหรัฐฯ ที่ถูกคุมขังใน รัสเซีย เช่นเดียวกัน หลังจากไม่สามารถชักพา รัสเซีย ให้ปล่อยตัวเขา ในส่วนหนึ่ง ของการพูดจาครั้งนี้

ไกรเนอร์ วัย 32 ปี เป็นเจ้าของเหรียญทอง กีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2 ยุค และ เป็นดาวดังแห่งกลุ่ม ฟีนิกซ์ เมอร์คิวรี ในศึกบาสเก็ตบอลหญิง อาชีพของสหรัฐฯ (ดับเบิลยูสมาคมบาสเกตบอลแห่งชาติ) เธอโดนจับจับ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ท่าอากาศยานแห่งหนึ่ง ในกรุงมอสโก หลังจากถูกตรวจเจอว่า ด้านในกระเป๋าสำหรับใช้ในการเดินทางของเธอ มีเครื่องสูบบุหรี่กระแสไฟฟ้า ของไกรเนอร์ ซึ่งมีน้ำมันกัญชา อันเป็นสารต้องห้ามผิดกฎหมาย ในรัสเซีย เธอถูกชี้ขาด เมื่อวันที่ 4 เดือนสิงหาคม ให้จองจำในทัณฑนิคมแห่งหนึ่ง เป็นเวลา 9 ปี ตามข้อกล่าวหา ครอง และ ลักลอบขนยาเสพติด

กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเปิดเผยว่า ได้แลกตัว ไกรเนอร์ กับ บูท วัย 55 ปี พลเมืองชาวรัสเซีย ที่เมื่อปี 2012 ถูกศาลแห่งหนึ่งของอเมริกา ชี้ขาดจำคุก 25 ปี ตามข้อกล่าวหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวโยงกับอาชีพค้าอาวุธ ของเขา ทั้งนี้ เป็นเวลานานแทบ 2 ทศวรรษ บูท เป็นพ่อค้าอาวุธที่ดังที่สุด ของโลก เขาขายอาวุธให้กับเมืองอันธพาลต่าง ๆ บรรดากลุ่มกบฏ และ เหล่าหัวหน้านักรบ ในแอฟริกา ทวีปเอเชีย และ อเมริกาใต้

ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า การเตรียมตัวแลกตัวไกรเนอร์ เกิดขึ้นด้านใน 48 ชั่วโมงก่อนหน้านี้ หลังจาก ไบเดน ตกลงใจเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อน ว่าจะทำแลกตัวเธอ กับ บูท แต่ว่าข้อตกลงสำหรับเพื่อการอภัยโทษ บูท ยังไม่ครบบริบรูณ์ กระทั่ง วันพฤหัสบดี(8ธ.ค.)

พ่อค้าแห่งความตาย3

ไบเดน และ กมาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้พูดคุยทางโทรคำศัพท์กับไกเนอร์

จากห้องทำงานรูปไข่ ของทำเนียบขาว ร่วมด้วย เชอเรลล์ ภรรยาของไกรเนอร์ โดยทางทำเนียบขาว ได้เผยแพร่รูปการคุยผ่านทางโทรศัพท์ และ ไบเดน เปิดเผยว่า ไกรเนอร์ “มีกำลังใจดี” และ บอกให้เห็นถึงความเข้มแข็ง และ ความสง่าผ่าเผยอย่างน่าทึ่งตลอดระยะเวลาอันแสนรุนแรง “ช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา ถือเป็นเวลานรกสำหรับ บริตนีย์ และ ภรรยา ครองครัว และ เพื่อนร่วมทีมของเธอ”

ในคำชี้แจงร่วมระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ ซาอุดีอาระเบีย ระบุว่าผู้นำยูอีเอ และ มกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย เป็นแกนนำในความอุตสาหะเป็นคนกลาง เพื่อค้ำประกันการปล่อยตัวไกรเนอร์ ระหว่างที่พิธีกรทำเนียบขาว แสดงความขอบคุณมากซาอุดีอาระเบีย และ ประเทศอื่นๆที่พูดถึงในหัวข้อนี้ แต่ว่ากล่าวว่าการพูดจาระหว่างรัสเซีย กับสหรัฐฯ “ไม่มีคนกลางมาเกี่ยวข้อง”

อย่างไรก็ตาม การแลกเปลี่ยนตัวครั้งนี้ เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ จากสมาชิก รีพับลิกัน เล็กน้อยต่อผู้นำ ที่มาจาก พรรคเดโมแครต

อดีตผู้นำโดนัลด์ ทรัมป์ เยาะเย้ยการแลกเปลี่ยนตัวนักกีฬาบาสเก็ตบอลรายหนึ่ง กับ วิคเตอร์ บูท ชายผู้อยู่เบื้องหลังการเสียชีวิต และ ได้รับบาดเจ็บอันน่าหวาดผวา หลายหมื่นหลายแสนคน โดยมิได้ตัว วีแลน พ่วงมาด้วย “อะไรจะโง่เขลาขนาดนั้น และ เป็นความไม่รักชาติที่น่าอับอายสำหรับสหรัฐฯ!” ทรัมป์ เขียนบนสื่อสังคมออนไลน์

ส่วน เควิน แม็คคาร์ธีย์ แกนนำ พรรครีพับลิกัน ในสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ เสริมว่า “นี่เป็นของขวัญที่มอบแก่ วลาดิมีร์ ปูติน และ มันเป็นอันตรายต่อชีวิตชาวอเมริกา”

กระนั้นทาง ไบเดน โต้กลับว่า “มันคืองานของผม ในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ สำหรับการตัดสินใจที่ยากลำบาก และ ปกป้องพลเมืองชาวอเมริกา ในทุกหนทุกแห่งในโลกใบนี้”

ไกรเนอร์ รับสารภาพผิด แต่ว่ากล่าวว่า เธอทำผิดพลาดโดยไม่ได้ตั้งใจ และ ปราศจากความตั้งใจฝืนกฎหมาย เมื่อเดือนที่ผ่านมา เธอถูกพาตัวไปยังทัณฑนิคมแห่งหนึ่ง ในประเทศมอร์โดเวีย เพื่อชดใช้โทษจำคุก

เชอเรลล์ ไกรเนอร์ ซึ่งกล่าวว่าเธอรู้สึกซาบซึ้งอย่างมากมาย ได้กล่าวขอบคุณมากไบเดน และ แผนกรัฐบาลของเขา สำหรับเพื่อการทำงานหนัก เพื่อหาทางให้ภรรยาของเธอได้รับการปล่อยตัว ทั้งนี้มุ่งมาดว่าเที่ยวบินของ ไกรเนอร์ จะลงหยุดที่ซานอันโตนิโอ เมืองเทกซัส

สำหรับ วิคเตอร์ บูท เคยเป็นบุคคลที่เป็นที่ต้องการตัวเยอะที่สุดในโลก ก่อนโดนจับจับในปี 2008 ในประเทศไทย ตามหลังกระทำการของสายอเมริกา ที่บันทึกเสียงการเสวนาที่เขาเสนอขายขีปนาวุธ ให้กลุ่มบุคคลที่เขามีความรู้สึกว่าเป็นพวกกองโจรฝ่ายซ้าย ของโคลอมเบีย และ ส่งตัวกลับมาต้องโทษ ต่อที่สหรัฐฯ ทั้งนี้รายงานข่าวล่าสุด ของรอยเตอร์ระบุว่า บูท ได้เดินทางถึงมอสโก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

(ที่มา:รอยเตอร์)

1 ช้ำในตาย

เจ้าของบ้าน ซ้อมคนขโมยกัญชา ช้ำในตาย ตำรวจไม่จับ อ้างมีสิทธิ์ปกป้องทรัพย์สิน

คุณลุงย่อง ลักกัญชาเพื่อนบ้าน โดนกระทืบ ช้ำในตาย ตำรวจไม่ทำคดี อ้างเข้าไปลักขโมยของบ้านผู้อื่น เจ้าของบ้าน สามารถคุ้มครองสินทรัพย์ได้

(6 ธันวาคม65) เมื่อเวลา 17.00 น. นางวรรณา อายุ 55 ปี ชาวบ้านพรเจริญ อ. วังสามหมอ จ. อุดรธานี พร้อมด้วยญาติ รวม 7 คนเข้าพบ พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เพื่อร้องขอความเป็นธรรม กรณี นายคำดี อายุ 49 ปี น้องชายเข้าไปลักขโมยกัญชา ของเพื่อนบ้าน ถูกเจ้าของบ้านจับได้ รวมทั้ง ทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก

2 ช้ำในตาย

นางวรรณา เล่าว่า เรื่องราวทั้งหมด เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาโดยประมาณ 22.00 น. ของคืนวันที่ 15 พ.ย. 2565

นายคำดี เป็นพ่อม่าย มีลูกชายอายุ 18 ปี 1 คน อาศัยอยู่กระต๊อบที่นาของตัวเอง ตนยอมรับว่า นายคำดี เป็นคนเสพกัญชา ตั้งแต่วัยรุ่น ได้เข้าไปลักขโมยต้นกัญชา ของเพื่อนบ้านจริง รวมทั้ง ถูกเจ้าของบ้านจับได้ รวมทั้ง ถูกรุมทำร้ายร่างกาย ซึ่งนายคำดี พยายามที่จะคลานออกมาข้างนอกบ้าน แต่ว่า เจ้าของบ้านก็ตามมา กระทืบซ้ำหลายครั้ง จนนายคำดีนิ่งแน่ไป

ซึ่งหลังจากนั้น มีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้ง ผู้ใหญ่บ้าน มาระงับเหตุ รวมทั้ง ควบคุมตัวนายคำดี ไปที่ โรงพักภูธรวังสามหมอ โดนแจ้งข้อกล่าวหาทะเลาะวิวาท รวมทั้ง จับนายคำดีจำคุกเป็นเวลา 1 คืน ก่อนจะเปรียบปรับ 500 บาท รวมทั้ง ปล่อยตัวในวันที่ 16 พ.ย.

หลังจากถูกปล่อยตัว นายคำดี ได้กลับมาที่บ้าน หลังจากนั้น มาก็นอนซมอยู่ที่บ้าน มาตลอด ไม่ออกมาจากบ้าน เนื่องจากร่างกายบอบช้ำอย่างหนัก รวมทั้ง ทานข้าวปลาของกินไม่ได้ คลื่นไส้เป็นเลือด อุจจาระเป็นเลือด แต่ว่าญาติไม่เคยรู้ เนื่องจาก นายคำดี ไม่ได้ออกจากบ้าน จนกว่า วันที่ 23 พ.ย. มีเพื่อนบ้านมาบอกว่า นายคำดีอาการไม่ดี ญาติจึงพากันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังสามหมอ นอนพักรักษาตัวอยู่โดยประมาณ 3 – 4 วัน

แล้วก็กลับไปอยู่ที่บ้านวันที่ 27 พ.ย. เนื่องจาก นายคำดี ปฎิเสธการรักษา ไม่ต้องการให้แพทย์ สอดสายยางให้อาหารทางจมูก ซึ่งขณะนั้นแพทย์ไม่ได้รับข้อมูล ว่า นายคำดี ถูกทำร้ายร่างกายมา จนกว่าเสียชีวิต ตอนวันที่ 1 ธันวาคม รวมทั้ง กระทำการการปลงศพวันที่ 2 ธันวาคม

หลังจาก นายคำดี เข้าไปลักขโมยกัญชา แล้วโดนเจ้าของบ้านซ้อม (ทำร้ายร่างกาย) จนกระทั่งบาดเจ็บอย่างหนัก รวมทั้ง ไปนอนรักษาตัวที่บ้าน เป็นเวลานานกว่า 2 อาทิตย์ ไม่สามารถที่จะเดิน หรือ ทานอาหารได้ หลังแล้วก็เสียชีวิต

แต่ว่าพอไปแจ้งตำรวจ กลับไม่ทำคดีให้ โดยกล่าวถึงว่า นายคำดี เข้าไปลักขโมยของที่บ้านของผู้อื่น ด้วยเหตุนี้เจ้าของบ้าน จึงสามารถคุ้มครองสินทรัพย์ของตัวเองได้

รวมทั้ง มีหลักฐานจากภาพวงจรปิด ขณะที่ นายคำดี ไปลักขโมยกัญชาก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ซึ่งพวกตนมีความรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง เนื่องจาก นายคำดี ไม่เคยมีประวัติการเจ็บป่วยมาก่อน อีกทั้งหลังจากที่ถูกซ้อม (ทำร้ายร่างกาย) มา ก็กำเนิดอาการเจ็บป่วยไข้จนเสียชีวิต

ที่ผ่านมา พวกตนเคยไปพบคู่กรณีแล้ว แต่ว่าตกลงกันไม่ได้ จึงไปพบตำรวจ เพื่อแจ้งความฟ้อง กับคนทำร้ายร่างกาย นายคำดี ตำรวจก็กล่าวข่มขวัญข้างของตัวเอง จนก่อให้เกิดความหวาดกลัว รวมทั้ง ไม่กล้าที่จะแจ้งความ

3 ช้ำในตาย

จากเรื่องราว เจ้าของบ้าน ซ้อมคนลักขโมยกัญชาจน ช้ำในตาย

นางวรรณา ยังเล่าอีกว่า ตั้งแต่ถูกทำร้ายร่างกายจนเจ็บ คู่กรณี ไม่เคยมาเยี่ยม ถามไถ่ หรือ ไม่เคยมาช่วยเหลืออะไรเลย ตำรวจติดต่อไปเพื่อมาไกล่เกลี่ย ก็ไม่ยินยอมมา จนกว่า นายคำดี เสียชีวิตไป

คู่อริยังมีหน้ามาบอกว่า ถ้าอยากได้เงินก็ไปฟ้องร้องคดีเอา เพราะจะฟ้องร้องคดีกลับ ที่มาลักขโมยต้นกัญชา ราคาเป็นแสนด้วย ซึ่งหลังจากที่ นายคำดี เสียชีวิตแล้ว ได้พยายามที่จะไปติดต่อกับตำรวจ แต่ว่าตำรวจกลับบอกว่า พวกตนผิด

เพราะว่าไปลักทรัพย์ในยามวิกาล ซึ่งขณะนั้น ตนเองก็ไม่เคยรู้จะทำยังไง แต่ว่าก็ยอมรับว่าคนตายไปลักทรัพย์จริง รวมทั้ง ไม่มีวิถีทางช่วยเหลือ อกน้อยใจตำรวจ

อ้างแต่เพียงว่า พวกตนผิดทุกอย่าง ผู้เสียชีวิตทั้งคน ซึ่งตำรวจก็ยังรับรองว่าข้างตนผิด ซึ่งตนมีความรู้สึกว่า ทำไมฆ่าคนตายทั้งคน กลับปราศจากความผิด ทำไมตำรวจไม่ให้ความช่วยเหลือ จึงมาร้องขอความยุติธรรม กับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี

ด้าน พล.ต.ต.พิษณู อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อดรธานี เผยออกมาว่า พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ซึ่งตอนนี้ พึ่งได้รับฟังฝ่ายเดียว แต่ว่าจากข้อมูลที่ได้รับฟังเชื่อว่า จะสามารถแจ้งข้อกล่าวหา คู่อริได้ คือ ฆ่าคนอื่นโดยไม่ได้เจตนา หรือ กระทำการโดยประมาท ส่งผลให้คนอื่นถึงแก่ชีวิต

จะสั่งให้พนักงานที่ทำหน้าที่ด้านการสอบสวน สภ.วังสามหมอ รีบทำงานสืบสวน ผู้เห็นเหตุการณ์ ทั้งสองฝ่าย

รวมทั้ง หากญาติคนตายเชื่อว่า มีผู้เห็นเหตุการณ์อื่น หรือหลักฐานอื่น ก็นำมาให้ตำรวจ นอกเหนือจากนั้นผลวินิจฉัยการตายของแพทย์ ก็เป็นหลักฐาน ซึ่งจึงควรไปไต่สวนปากคำ จากแพทย์ที่ทำงานรักษา ขอรับรองว่าตำรวจจึงควรรับแจ้งความแน่ๆ รวมทั้ง ให้ทั้งสองฝ่าย ไปพิสูจน์ความจริงกันบนศาล

1 อุ๊งอิ๊ง

“อุ๊งอิ๊ง-SC Asset” งานเข้า! เป็นเจ้าของหมู่บ้านทุนจีน โยง “สีเทา” “อั้ม เนโกะ” ฟาด “เจี๊ยบ ก้าวไกล” ล้าหลัง

“เพจดัง” เปิดโปง อดีตกาลบิ๊กสีกากียุค “ยิ่งลักษณ์-ทักษิณ” หนุนออกชนชาติไทยให้ “ตู้ห่าว” พบหมู่บ้านทุนจีน โยง “สีเทา” มีโครงการของ SC Asset – อุ๊งอิ๊ง หุ้นใหญ่ด้วย “อัม เนโกะ” ฟาด “เจี๊ยบ” ร่วมกิจกรรมฝั่งขวา เยอรมนี

น่าดึงดูดเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (30 พ.ย. 65) เพจเฟซบุ๊ก The METTAD แชร์วิดีโอจากเพลย์ลิสต์ TOP HIGHLIGHT พร้อมข้อความระบุว่า “#แอดปอง รายงาน”

โดยเนื้อหารายงาน ระบุว่า ตำรวจค้นรังหมู่บ้านหรูโครงข่าย “ตู้ห่าว” ยึดเงินสด รถหรู แหล่งซ่อนตัวมาเฟียทุนจีนโยงอสังหาฯคนเชื้อสายชินฯ ถึงว่าเพราะเหตุไร “พท” ปิดปากเงียบ รัฐบาลล้างบางทุนจีนสีเทา เพราะว่ามีสมัยก่อนบิ๊กนายพลสีกากียุค “ยิ่งลักษณ์-ทักษิณ” หนุนหลังออกชนชาติไทยให้ “ตู้ห่าว” เปิดทางสบายเข้ามาทำธุรกิจสีเทา จึงเงียบเป็นเป่าสากไม่จู่โจมรัฐบาล กลัวจะเข้าเนื้อตัวเอง

ก่อนหน้านี้ เพจเฟซบุ๊ก The METTAD โพสต์ ภาพกราฟิกเชื่อมโยงความไม่ชอบมาพากล พร้อมข้อความระบุว่า

“พอทุนจีนเริ่มสนุกขึ้น แต่สื่อกลับเงียบปาก
ฝาก Thai PBS สื่อน้ำดี ขยี้หน่อยครับ”

นอกจากนี้ ได้แชร์เว็บไซต์ สถาบันแนวทางไทย – Thai Move Institute ระบุว่า

“ข้อเท็จจริง หมู่บ้าน แกรนด์ บางกอก บลูเลอวาร์ด สุขุมวิท ทุนจีนสีเทาเหมาซื้อ พบ“อุ๊งอิ๊ง” ถือหุ้นใหญ่

ไทยรัฐรายงาน ตำรวจไปบุกค้นบ้านทุนจีนสีเทาใน หมู่บ้าน แกรนด์ บางกอก บลูเลอวาร์ด สุขุมวิท และก็ หมู่บ้านอื่น ข่าวสารระบุมีการซื้อเหมาเกือบยกโครงการ 50 หลัง จาก 66 หลัง

หมู่บ้าน แกรนด์ บางกอก บลูเลอวาร์ด สุขุมวิท เจ้าของโครงการเป็น SC Asset

2 อุ๊งอิ๊ง

รายนามผู้ถือหุ้น SC Asset อันดับ 1เป็น อุ๊งอิ๊ง นางสาว แพทองธาร ชินวัตร

ทั้งนี้ ตอนวันที่ 29 พ.ย. 2565 ตำรวจสนธิกำลังตำรวจ บช.สอท. ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (คอมมานโด) ตำรวจท่องเที่ยว และก็ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ปิดล้อมตรวจค้น 11 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และก็ จังหวัดจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อหาหลักฐานตรวจยึด สิ่งผิดกฎหมายของ กลุ่มทุนจีนสีเทา

ตำรวจกระจายกำลัง เข้าตรวจค้นบ้านจุดหมายโครงข่ายกลุ่มทุนจีนสีเทา 10 หลัง ในโครงการบ้านหรู 4 แห่ง ประกอบด้วย บ้านหรู 4 หลัง ในหมู่บ้านหมู่บ้าน แกรนด์ บางกอก บลูเลอวาร์ด สุขุมวิท ซอกซอย แบริ่ง – ลาซาล ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นโครงการบ้านหรู หลังละกว่า 50 ล้านบาท บ้านหลังที่ 5 และก็ 6 ในหมู่บ้านทรูแกรนด์ โมนาโก ซอกซอยกาญจนาภิเษก 50 ตำบลดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร บ้านหลังที่ 7 ม.บุราสิริ วัชรพล ถนน เขตสุขาภิบาล 5 ตำบลออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร บ้านหลังที่ 8 , 9 และก็ 10 ในหมู่บ้านลดาวัลย์ ราชพฤกษ์ – ปิ่นเกล้า ถนน ราชพฤกษ์ ตำบล บางละมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร สามารถยึดรถยนต์ โตโยต้า อัลพาร์ด 5 คัน ตู้นิรภัย 4 ตู้ ยาชูกำลัง ซึ่งแสดงฉลากเป็นภาษาจีนจำนวนไม่น้อย บุหรี่จีน และก็ ไวน์หนีภาษีจำนวนหนึ่ง บุหรี่ไฟฟ้า อุปกรณ์เล่นไพ่นกกระจอก ตลอดจน กระเป๋าเสื้อผ้าแบรนด์เนม จำนวนหนึ่ง จึงยึดไว้ตรวจทาน

3 อุ๊งอิ๊ง

การเข้าตรวจค้นบ้านหรู ในหมู่บ้านแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด

ซึ่งจากวิธีการสืบสาว รู้ว่า มีกลุ่มทุนจีน ใช้หมู่บ้านดังกล่าว เป็นที่พักที่อาศัย เจ้าหน้าที่ได้ทำตรวจยึด รถยนต์อัลพาร์ท ยาชูกำลัง ซึ่งแสดงฉลากเป็นภาษาจีน จำนวนไม่น้อย บุหรี่จีน และก็ ไวน์หนีภาษีจำนวนหนึ่ง ตู้นิรภัย 3 ตู้ บุหรี่ไฟฟ้า อุปกรณ์เล่นไพ่นกกระจอก ตลอดจนกระเป๋า เสื้อผ้าแบรนด์เนม จำนวนหนึ่ง ซึ่งในส่วนนี้ ตรวจยึดเพื่อสำรวจ นอกจากนี้ ยังได้ไปตรวจค้นห้องชุด ภายในคอนโดฯหรู เขตเจริญนคร ซึ่งมีมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท เบื้องต้นยึดเงินสด โฉนดที่ดิน เครื่องเพชรพลอยรถยนต์ ปอร์เช่ รุ่น 911 รถเบนซ์ รุ่น G calss 2 คัน และก็ รถโตโยต้า อัลพาร์ท สีขาว ไว้ทำสำรวจ

มีแถลงการณ์ว่า วิธีการสืบสาว พบว่า หมู่บ้านแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด แต่ละหลัง มีมูลค่าสูงยิ่งกว่า 50 ล้านขึ้นไป โดยมีชาวจีนที่เข้ามากว้านซื้อ เพื่อรับประกันฝูงชนจีน ด้วยกันที่เดินทางมาในประเทศไทย โดยจะมีแม่บ้าน รอดูแลทำความสะอาด ความเรียบร้อยภายในบ้านพักให้ อีกทั้ง ก่อนหน้านี้พบว่า จะมีฝูงชนจีนที่เป็นนักเที่ยว มีความเชี่อมโยงกับผับจินหลิง แวะเวียนมาเล่นไพ่ คบหาสมาคม ที่บ้านหรู ภายในโครงการ ดังกล่าวด้วย

วันหลัง นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว เข้ามอบตัวกับตำรวจ ทำให้ชาวจีนกลุ่มดังกล่าว ได้ขนย้ายสิ่งของภายในบ้าน และก็ นำรถยนต์หรูไปซุกซ่อนตามจุดต่าง ๆ ก่อนตำรวจ จะเข้ามาตรวจค้น เหลือเพียงแค่ผู้ที่ยังไม่รู้เรื่องข่าวสาร ความเคลื่อนไหวของนาย ตู้ห่าว หรือบ้านชาวจีนบางหลัง ก็เหลือไว้เพียงแค่คนใช้ และก็ แม่บ้านคนไทยเท่านั้น ในส่วนของกลางทั้งหมดทั้งปวง จากการตรวจค้น 11 จุด ชุดสืบสาวตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานทางคดี และก็ จะให้ผู้ครอบครอง มาแสดงตนพร้อมด้วยชี้แจง การได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่ต้องสงสัย

4 อุ๊งอิ๊ง

รายงานข่าวสารระบุว่า การตรวจค้นทั้ง 11 จุด

ในคราวนี้ เป็นการขยายผล จากการตรวจค้นจากยุทธการ ล้มไม้ค้ำ ลิดกิ่งก้าน ที่ก่อนหน้านี้ ได้ตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยว่าเป็นที่พักที่อาศัย และก็ ใช้เพื่อสำหรับการทำไม่ดีกลุ่มบุคคลทุนจีนสีเทา และก็ ขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในพื้นที่กรุงเทพฯ 3 จุด เมื่อต้นเดือนก่อนหน้าที่ผ่านมา

ที่น่าดึงดูดไม่แพ้กัน นายศรัณย์ ฉุยฉาย หรือ อั้ม เนโกะ ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง ซึ่งหลบภัย อยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส โพสต์เฟซบุ๊ก พร้อมแคปรูปทวิตเตอร์ ของ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ระบุว่า

“ความทุเรศของนักการเมืองไทยที่สังกัดอยู่กับพรรค กับกลุ่มที่ชอบอ้างว่าตัวเองก้าวหน้า ก้าวไกล แต่กลับทำตัวล้าหลังไปร่วมกิจกรรมกับพรรคการเมืองฝ่ายขวาอนุรักษนิยมของเยอรมนี

CSU นอกจากจะเป็นพรรคที่สนับสนุนระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมแล้ว พรรคนี้ยังเป็นพรรคที่เอาศาสนา (คริสต์) มายุ่งกับการเมือง ซึ่งตรงกันข้ามกับอุดมการณ์ของรัฐโลก วิสัยที่ต้องการแยกศาสนาออกจากการเมือง

นี้นะหรอตัวแทนนักการเมืองไทย ที่มาจากฝั่งที่ทำตัวเป็นก้าวหน้า ชอบออกตัวว่า มีหลักการกว่าพรรคอื่น แต่ที่แท้ก็แค่พรรคการเมืองฝ่ายขวา ทำมาพูดว่าจะสร้างรัฐสวัสดิการ ไม่เอาทุนผูกขาด แต่ไม่แตะระบบทุนนิยมทั้งโครงสร้าง แบบนี้เขาเรียกว่า #ปลอม ค่ะ !”

แน่นอน, ใจความสำคัญที่น่าดึงดูด อยู่ที่ “กลุ่มทุนจีน” ซึ่งพันพัว “ธุรกิจสีเทา” และก็ ใช้ “นอมินี (ตัวแทน)” ซื้อบ้านในหมู่บ้านหรู ที่มีนักการเมือง “ดัง” เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ นอกนั้น “ตู้ห่าว” ผู้ต้องหา คนสำคัญของ “ทุนจีนสีเทา” ยังได้ ชนชาติไทย ในยุครัฐบาลพรรคเพื่อไทยอีกด้วย

เมื่อเป็นเช่นนี้ ทำให้การขยายผลตรวจค้น ของตำรวจ ได้รับความสนใจอย่างยิ่ง และก็สื่อที่วางตัวเป็นกลาง ก็ให้ความสำคัญกับหัวข้อนี้

อย่างไรก็แล้วแต่ การที่ “ทุนจีน” ซึ่งบางทีอาจพันพัวธุรกิจสีเทา ไปซื้อหมู่บ้านโครงการใหญ่ ของ นักการเมืองดัง บางทีอาจมิได้เกี่ยวข้องกันก็เป็นไปได้?

แม้กระนั้นในทางการเมือง เมื่อกระแสข่าว ออกมาในทำนองนี้ หลายคนเชื่อว่า “งานเข้า” นักการเมืองดังแน่ ยิ่งในตอนหาเสียงอยู่ด้วย

โควิดสายพันธุ์ย่อยใหม่ 1

โควิดสายพันธุ์ย่อยใหม่ดื้อต่อภูมิคุ้มกัน ติดเชื้อง่าย-แพร่ได้มากขึ้น

“นายแพทย์ธีระ” เปิดเผย โควิดสายพันธุ์ย่อยใหม่ ดื้อรั้นต่อภูมิคุ้มกันทั้งจากวัคซีน มีโอกาสที่จะมีการติดเชื้อได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้นหรือแพร่กันได้มากขึ้น

รองศาสตราจารย์นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat บอกว่า 29 พ.ย. 2565… เมื่อวานทั้งโลกติดเพิ่ม 174,759 คน ตายเพิ่ม 778 คน รวมแล้วติดไป 646,366,341 คน เสียชีวิตรวม 6,637,358 คน

5 ลำดับแรก ที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ บราซิล ไต้หวัน รวมทั้งฝรั่งเศส

เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปรวมทั้งทวีปเอเชียครอง 7 ใน 10 ลำดับแรก รวมทั้ง 13 ใน 20 ลำดับแรกของโลก

จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั้งโลกเดี๋ยวนี้ มาจากทวีปเอเชีย รวมทั้ง ยุโรป รวมกันคิดเป็นปริมาณร้อยละ 76.25 ของทั้งโลก ในระหว่างที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นปริมาณร้อยละ 74.93

โควิดสายพันธุ์ย่อย2

…ลักษณะสายพันธุ์ย่อยในออสเตรเลีย

Esterman A. ได้เผยแพร่เนื้อหาเกี่ยวกับโควิด-19 ที่ระบาดในออสเตรเลียช่วงนี้ พบว่าเป็นไปในลักษณะมากมายสายพันธุ์แบบ variant soup

โดยมีทั้ง BA.5 39%, BA.2.75 26%, BQ.1 19%, XBB 4% รวมทั้งอื่น ๆ

ลักษณะดังที่กล่าวมาข้างต้น เป็นที่คาดคะเนกันว่าประเทศอื่น ๆ ก็จะเป็นไปในรูปแบบนี้ โดยมีสายพันธุ์ย่อยใหม่ ที่น่ากังวลเช่น BQ.1.x, XBB, BA.2.75.x ที่อาจมีสัดส่วนสูงแตกต่างกันไปในแต่ละทวีป รวมทั้งจะมาเทคโอเว่อร์ BA.5 ในเวลาไม่นาน ดังนี้ BQ.1.x จะครองสัดส่วนนำ ในอเมริกา รวมทั้ง ยุโรป ส่วน BA.2.75.x รวมทั้ง XBB จะเด่นในแถบทวีปเอเชีย

การระบาดในไทยเรามีลัษณะทิศทางจะเป็นไปในแนวทางข้างต้น

…ตีระฆังเตือนการันตีประเด็นการดื้อรั้นต่อภูมิคุ้มกัน

ทีมงานของ David Ho จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ประเทศอเมริกา ได้เผยแพร่ผลงานวิจัยใน bioRxiv เมื่อวานนี้ 28 พ.ย. 2565

โควิดสายพันธุ์ย่อย3

แสดงให้เห็นว่า โควิดสายพันธุ์ย่อยใหม่ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น BQ.1.x รวมทั้ง XBB นั้น

ดื้อรั้นต่อภูมิคุ้มกันทั้งจากวัคซีน รวมทั้งการที่เคยติดเชื้อมาก่อน มากกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ ที่เคยระบาดมาก่อนหน้านี้อย่างมาก

ถึงแม้ข้อมูลทางสถานพยาบาลในขณะนี้ ยังไม่มีหลักฐานการันตีว่าจะก่อให้ป่วยร้ายแรงมากขึ้นกว่าสายพันธุ์ที่เคยระบาดเดิม

แม้กระนั้นสมรรถนะการดื้อรั้นต่อภูมิคุ้มกันที่มากขึ้นนั้น ย่อมมีผลทำให้มีโอกาสที่จะมีการติดเชื้อได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น หรือ แพร่กันได้มากขึ้นเป็นเงาตามตัว

อย่างนี้เอง ที่เป็นตัวตอกย้ำให้มองเห็น ถึงจุดสำคัญของการป้องกันตัว ระหว่างการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งประเด็นการใส่หน้ากาก เลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง เลี่ยงสถานที่คับแคบระบายอากาศไม่ดี รักษาความสะอาด รวมทั้ง เว้นระยะห่าง จากผู้อื่น

Personal protective behaviors เป็นเกราะป้องกันที่สำคัญที่สุด

…ทางเดินประวัติศาสตร์การแพร่ ของแต่ละสายพันธุ์

โควิด-19 แพร่ระบาดมาหลายปี โดยมีสายพันธุ์ที่มากมาย

ถ้าหากเปรียบเทียบกันตัวต่อตัว จะพบว่า ในช่วงเวลา 100 วันแรกของการระบาด สายพันธุ์ Omicron นั้นแพร่กระจายไปยังประเทศอื่น ๆ ทั้งโลกได้มากกว่าสายพันธุ์อื่น ที่ระบาดมาก่อน ถึง 5 เท่า

แต่ละระลอกที่ผ่านมา ตั้งแต่สายพันธุ์ดั้งเดิม (Wuhan: Wild type), เบต้า, แกมม่า, อัลฟ่า, เดลต้า, และ Omicron นั้น ก็มีลักษณะของ ทวีปที่มีการระบาดหนัก ก่อนกระจัดกระจายไปยังทวีปอื่น ๆ ที่แตกต่างกันไป

…สำหรับระลอกอนาคตนั้น ลักษณะการระบาดน่าจะมีลัษณะทิศทางแตกต่างไปจากอดีต ด้วยเหตุว่ามีต้นเหตุประเด็นการเดินทางระหว่างประเทศเกิดขึ้นมาก การระบาดจะเป็นลักษณะมากมายสายพันธุ์ แปรเปลี่ยนกับการนำเข้า ส่งออก รวมทั้งสมรรถนะของเชื้อไวรัสแต่ละสายพันธุ์ พฤติกรรมการป้องกันตัว รวมทั้ง การใช้ชีวิตของประชาชน ชนิด รวมทั้งความครอบคลุมของวัคซีนที่ใช้ รวมทั้ง อื่น ๆ

ผลพวงที่จะเกิดขึ้น ทั้งในแง่จำนวนการรับเชื้อ การป่วย การตาย รวมทั้ง Long COVID นั้น ก็เลยมีโอกาสสูง ที่จะแปรเปลี่ยนกับหลักการควบคุมป้องกันโรค รวมทั้ง ความพร้อม “จริง” ของระบบสาธารณสุขของประเทศนั้น ทั้งเรื่องยาที่ตามมาตรฐาน วัคซีนที่มีประสิทธิภาพ บริการดูแลต่าง ๆ ว่าประชากรในประเทศ จะเข้าถึง รวมทั้ง พึ่งพาอาศัยได้หรือเปล่า ยามที่เกิดปัญหา

ผลลัพธ์ที่พึงปรารถนาของทุกสังคม คือ ยามวิกฤติ ประชากรสามารถพึ่งพาอาศัย รวมทั้งได้รับการช่วยเหลือดูแลอย่างทันท่วงที มีประสิทธิภาพ โดยทั่วถึงกัน

ไม่ต้องพบเจอกับภาวการณ์ท้อแท้ คอย จนกระทั่งจะต้องดิ้นรนตีกระปุกขวนขวายหาทางรอด กันเอาเองแบบ อัตตาหิ อัตตโน นาโถ

…สถานการณ์ปัจจุบันนั้น จำเป็นจะต้องดำรงชีวิตอย่างมีสติสัมปชัญญะ ไม่ประมาทในการดำรงชีพ

ปกป้องอย่างสม่ำเสมอ ทั้งช่วงดำเนินการ เรียน หรือท่องเที่ยว

ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครบตามที่มีการกำหนด

ใส่หน้ากากอย่างถูกต้อง จะช่วยลดการเสี่ยงลงไปได้มาก

นอกเหนือจากนี้ ยังคงพบลักษณะของการสูญเสียการได้กลิ่น รวมทั้งการรู้รส พบอาการไม่ปกติเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร กรุ๊ปลักษณะของระบบทางเดินหายใจ หายใจถี่ หายใจไม่สะดวก รวมทั้งกรุ๊ปอาการนอกระบบ ที่ไปคล้ายคลึงกันกับสายพันธุ์เดลตาได้ด้วยเหมือนกัน

สำหรับคนที่สัมผัสเสี่ยงสูง หรือมีอาการเสี่ยงติดเชื้อ เสนอแนะให้ตรวจ ATK ด้วยตนเอง โดยควรเลือก ATK ที่ได้รับมาตรฐาน รวมทั้ง มีค่าความไว (Sensitivity) รวมทั้ง ค่าความจำเพาะ (Specificity) ไม่ต่ำลงยิ่งกว่า 90%

อ้างอิง

1. Wang Q et al. Alarming antibody evasion properties of rising SARS-CoV-2 BQ and XBB subvariants. bioRxiv. 28 November 2022.

2. Tegally H et al. Global Expansion of SARS-CoV-2 Variants of Concern: Dispersal Patterns and Influence of Air Travel. medRxiv. 27 November 2022.

ข้อมูลจาก รองศาสตราจารย์นพ.ธีระ วรธนารัตน์

โควิดสายพันธุ์ย่อย4